บ้านห้วยสักจัดพิธีฟังธรรมขุนห้วยกุศโลบายรักษาป่า พร้อมประกาศเขตห้ามล่าเต่าปูลู

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 ชุมชนบ้านห้วยสัก หมู่ 9, 15 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย จัดพิธีกรรม ณ ป่าต้นน้ำของหมู่บ้าและ พิธีกรรมฟังธรรมขุนห้วยหรือฟังธรรมพญาปลาช่อนและเลี้ยงผีขุนห้วย  

พิธีกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการนำกุศโลบายความเชื่อล้านนาทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการทำพิธีกรรม โดยมีพระสงฆ์ จำนวน 5 รูป  ได้ทำการเทศนาธรรม ชื่อธรรมมัจฉาพระยาปลาช่อน มีเนื้อหาให้เกิดฝนตกต้องตามฤดูกาล และมีการแห่ช้างเผือกจำลองจากวัดไปยังป่าต้นน้ำเพื่อทำการถวายทาน 

สรศักดิ์ ถาริยะ ผู้ใหญ่บ้านห้วยสัก หมู่ 9 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า

“วันนี้เราได้มาทำกิจกรรมเลี้ยงผีขุนน้ำที่เราทำสืบต่อกันมาหลายร้อยปี เป็นพิธีกรรมที่ใช้สำหรับการขอฝนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ขอให้เทวดาปกปักรักษาพ่อแม่พี่น้องที่บ้านห้วยสักซึ่งกิจกรรมวันนี้มีพิธีกรรม 3 อย่างคือการฟังธรรมปลาช่อน การเลี้ยงผีขุนห้วยและก็การถวานทานช้างเผือก กิจกรรมที่เราทำกันทุกปี ที่บ้านห้วยสักมี 2 หมู่บ้าน คือบ้านห้วยสัก หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 15 ร่วมกันจัดพิธีกรรมที่เราควรสืบทอดที่ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ”

ภายในงานมีพีกรรมสำคัญ 2 พิธีกรรม

  1. การฟังธรรมขอฝนเป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
  2. การเลี้ยงผีขุนห้วยเป็นการนำความเชื่อเรื่องผีของชุมชนที่ทำมาตั้งแต่มีการก่อตั้งหมู่บ้าน

ซึ่งเป็นภูมิปัญญาล้านนาด้านการจัดการน้ำ ระบบเหมืองฝาย ที่เชื่อว่าผีขุนห้วยเป็นผีที่ใหญ่สุดเกี่ยวกับเรื่องน้ำ   เพื่อขอฝนให้เพียงพอในการทำการเกษตร พืชไร่และนาข้าวมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นประเพณีที่ชุมชนสืบทอดกันมาทุกปี ส่วนในประเทศไทยพิธีการฟังธรรมขอถือว่าเป็นประเพณีที่ขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ในปี 2557 ที่ผ่านมา

ด้านพระครูกิตติ วรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยสัก ตำบลยางฮอม กล่าวถึงความสำคัญของพิธีกรรมฟังธรรมขุนห้วยว่า

“บ้านห้วยสักเป็นชุมชนเกษตรที่มีการพึ่งพาทรัพยากรแหล่งน้ำในการทำการเกษตรให้สำเร็จ ทุกปีก็จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อระลึกนึกถึงทรัพยากรธรรมชาติที่ได้พึ่งพา ตั้งแต่ปู่ย่าตายายได้ทำมา สืบทอดต่อลูกหลาน การเทศน์ธรรมพระยาปลาช่อน เป็นธรรมบทเมื่อครั้งพุทธกาล มีการถวายทานพญาช้างเผือกช้างแก้ว เป็นสัตว์ในพระพุทธกาล ซึ่งพระเวสสันดรได้มีช้างคู่เมืองทำให้บ้านเมืองมีฝนตกต้องตามฤดูกาล ธรรมชาติข้าวน้ำอุดมสมบูรณ์จึงการพิธีกรรมการถวายทานช้างเผือก และธรรมพญาปลาช่อนที่จะได้มาฟังธรรมในวันนี้ เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะให้คนในชุมชนสมัครสมานสามัคคี ตระหนักในเรื่องของธรรมชาติที่ได้ดำรงชีวิตความเป็นอยู่ คร่าวของธรรมพญาปลาช่อน ได้พูดถึงเมื่อครั้งพระพุทธองค์ ได้กำเนิดพระชาติหนึ่งเป็นพญาปลาช่อนอยู่ในหนองน้ำ เป็นหนองน้ำที่แห้งแล้ง พญาปลาช่อนจึงช่วยให้สัตว์ทั้งหลายให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล และวันนี้ทางชุมชนได้ตระหนักถึงเรื่องนี้จึงได้จัดพิธีกรรมขึ้น ตระหนักถึงธรรมชาติจึงได้จัดพิธีกรรมนี้ขี้น”

ชุมชนบ้านห้วยสักตั้งอยู่ทางที่ราบเชิงเขา มีลำห้วยสักไหลผ่านหมู่บ้านก่อนไหลลงแม่น้ำอิงทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน มีป่าต้นน้ำอยู่ทางทิศตะวันออกเขตเทือกเขาดอยยาว ป่าต้นน้ำห้วยสักอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยป่าแดง ป่าห้วยป่าตาลและป่าห้วยไคร้ และได้ขึ้นทะเบียนป่าชุมชนกับกรมป่าไม้ โดยมีพื้นที่ 1,289 ไร่ 3 งาน 99 ตารางวา

ทางชุมชนได้ร่วมกับทางสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตในปี พ.ศ. 2565-2567 ทำการศึกษาเต่าปูลู หรือเต่าปากนกแก้ว  (Big-headed Turtle) ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ อาศัยอยู่ลำห้วยสาขาของป่าต้นน้ำ ในลักษณะระบบนิเวศแบบลำธาร มีโขดหิน แอ่งน้ำ ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นที่พบได้ทั่วไปในแหล่งป่าต้นน้ำในภาคเหนือของประเทศไทย และที่ลำห้วยสักยังมีการพบเต่าปูลูจากคนในชุมชนและการตรวจหาสารพันธุกรรมในสิ่งแวดล้อม (eDNA)

โดยทีมนักวิชาการคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ระบุว่า การพบเจอเต่าปูลูที่ลำห้วยสักนั้นเป็นตัวชี้วัดว่าระบบนิเวศของป่ายังมีความอุดมสมบูรณ์ เพราะเต่าปูลูจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำสะอาด และมีสัตว์น้ำที่เป็นอาหารจำนวนมากเพียงพอ และจากการเก็บข้อมูลงานวิจัยพบว่า ปัญหาหลักของภัยคุกคามของเต่าปูลูคือ การแอบลักลอบล่าสัตว์เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศของคนภายนอกชุมชน ซึ่งมีราคาสูงถึงกิโลละ 3,000 – 5,000 บาท  และถึงแม้จะมีกฎหมายคุ้มครองและบทลงโทษที่ชัดเจน แต่การล่าเต่าปูลูยังมีเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ปริมาณเต่าปูลูลดลงจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

สรศักดิ์ กล่าวถึงการประกาศเขตห้ามล่าเต่าปูลูในครั้งนี้ว่า

“เป็นป่าต้นน้ำที่ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ เป็นป่าต้นน้ำห้วยสัก ที่ชุมชนบ้านห้วยสักของเราได้มีการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และจดทะเบียนป่าชุมชน พื้นที่ประมาณ 1,200 กว่าไร่ และในลำห้วยสักได้มีการพบเต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าหายาก แต่มีการพบที่นี่ วันนี้เราเลยประกาศเป็นเขตห้ามล่าเต่าปูลู”

ทางชุมชนบ้านห้วยสักจึงร่วมกับทีมสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ทำการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยเต่าปูลู ได้มีการประกาศเขตห้ามล่าเต่าปูลูในลำห้วยสักซึ่งเป็นแห่งที่ 4 ในลุ่มน้ำอิงตอนปลายที่มีการประกาศเขตห้ามล่าเต่าปูลู  โดยผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนลุ่มน้ำอิงตอนปลายร่วมกันวิเคราะห์หาภัยคุกคามและแนวทางการแก้ไขร่วมกับคนในชุมชน การทำมติชุมชน และตั้งคณะทำงานในการดูแลสอดส่องจากชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อีกทั้งได้ตั้งกฎระเบียบ โดยให้การประชาคมหมู่บ้านร่วมกับกฎระเบียบป่าชุมชนที่ได้รับการรับรองจากกรมป่าไม้ รวมถึงมีกิจกรรมการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยเต่าปูลู เช่นการทำฝายชะลอน้ำ การป้องกันไฟป่า การเลี้ยงผีขุนห้วย การลาดตระเวน สำรวจแนวเขตป่าเพื่อป้องกันการล่าเต่าจากคนนอกพื้นที่ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง