Lanner Joy: สำรวจมุมมองนักติดตั้งผลงานศิลปะจากเชียงใหม่ และก้าวใหม่แห่งการก่อตั้ง “New Found Art Handler” 

เรื่องและภาพ: อนันตญา ชาญเลิศไพศาล

อาชีพนักติดตั้งผลงานศิลปะ หรือ “อาร์ต แฮนเลอร์” (Art Handler) เป็นอาชีพที่กำเนิดขึ้นมาพร้อมกับการขยายตัวของพิพิธภัณฑ์แกลเลอรี่ในยุคสมัยใหม่ ที่ต้องยกระดับมาตรฐานในการจัดนิทรรศการศิลปะมากขึ้น จึงทำให้อาชีพนี้กลายเป็นที่ต้องการอย่างแพร่หลาย

Art Handler มีวิธีคิดยังไง? แค่ใช้เครื่องมือช่าง ก็เป็นนักติดตั้งงานศิลปะได้แล้วไหม? 

Lanner JOY ชวนพูดคุยกับ ‘ต้องจี้ – วิภูพงศ์ จิระประภูศักดิ์’ และ ‘กว้าง — กีรติ กุสาวดี’ นักติดตั้งงานศิลปะจากเชียงใหม่ที่ทำงานมาแล้วกว่า 8 ปี และก้าวใหม่ในการก่อตั้งบริษัท “New Found Art Handler” ที่รับออกแบบติดตั้งงานนิทรรศการและงานโปรดักชั่นแบบครบวงจร 

แนะนำตัวเองว่ายังไงกับอาชีพนี้

กว้าง: พอบอกอาร์ตแฮนเลอร์ คนก็จะ ห้ะ อะไรนะ (หัวเราะ) บางทีก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง บอกไปเค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม ผมเป็นช่างก็ได้ ทุกวันนี้

ต้องจี้: มันไม่มีคําภาษาไทย เพราะถ้าภาษาไทยเราก็จะบอกว่า “คนติดตั้งงานศิลปะ” 

บุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา) ต้องจี้ – วิภูพงศ์ จิระประภูศักดิ์ และ กว้าง — กีรติ กุสาวดี

เข้ามาในวงการ Art Handler ได้ยังไง?

ต้องจี้:  เรารู้จักกันตอนเรียนป.โท Media Arts and Design รุ่นท้าย ๆ ก่อนปิด 

ซึ่งตอนนี้ก็ปิดไปแล้วล่ะ (หัวเราะ)

กว้าง: ตอนเรียนมันก็จะต้องทําโปรเจ็คกันอยู่แล้ว แล้วทีมติดตั้งกันก็มีอยู่ไม่กี่คน พอรู้ว่าใครจัดการงานติดตั้งอะไรได้ เขาก็จะรีเควสคนเข้าไปทํา

ต้องจี้: เริ่มจากไปช่วยรุ่นพี่ที่เป็นกลุ่มศิลปินชื่อ Mute Mute น่าจะช่วงปี 2551-2552 เข้าไปตั้งแต่กระบวนการผลิตชิ้นงานน่ะ แล้วเค้าก็ชวนไปช่วยติดตั้งที่ Bacc ก็เลยเริ่มจากตรงนั้น ทีนี้เราเริ่มรับงานเอง ไปเริ่มที่หอศิลป์ฯ ปี 2016 เป็นงานของพี่ตั๋ง – อุดมศักดิ์ กฤษณมิตร เค้ามาทํา Retrospective ซึ่งเราก็ได้งานจาก Gallery VER มา”  

ต้องจี้: หลังจากนั้นไม่นาน พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยใหม่เอี่ยมฯ (MAIIAM Contemporary Art Museum) ก็เปิดพอดี แล้วเค้าก็หาคนช่วยติดตั้งงาน จนได้ไปเจอกับ supermormal เราก็เลยได้เข้าไปช่วยซัพพอร์ต เราพอจะรู้จักการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ แต่ที่ตัดสินใจไปทําก็คือเราอยากไปเรียนรู้เพิ่มขึ้นเพราะงานบางประเภทเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะติดตั้งกันแบบไหน

การเป็น Art Handler ต้องทําอะไรบ้าง?  

กว้าง:  เอาสเก็ตช์มาคุยกันก่อน แล้วดูว่านิทรรศการมันจะเป็นยังไง มีงานอะไรบ้าง เราจะได้วางแผนถูก ไปดูหน้างานว่ามันทําได้จริงมั้ย โครงสร้างซัพพอร์ตได้ไหม เราต้องไปเพิ่มโครงสร้างอะไรรึเปล่า เพื่อให้งานมันแข็งแรง แล้วก็เตรียมเครื่องมือเพื่อไปเซ็ตอัพ

ภาพจาก Tongjy Wipoopong Jiraprapoosak 

ยกตัวอย่างงานที่รู้สึกท้าทายแล้วอยากเล่าให้ฟัง 

กว้าง: ของผมเป็นงานกลุ่มศิลปินหรือ Collective จาก ออสเตรีย/โครเอเชีย ที่ชื่อว่า ‘Numen/For Use’ จัดแสดงกับ BAB (Bangkok Art Biennale) ปี 2018 ที่ BACC ซึ่งไอเดียความคิดของศิลปิน ก็คือเอาเทปพลาสติกใสพันกันให้ออกมาเป็นเหมือนรังไหมแล้วให้คนเข้าไปอยู่ข้างในได้ เค้าไปทำทั่วโลกเลย

Tape Bangkok (2018) ภาพจากเว็บ Bangkok Art Biennale 2018 

กว้าง: เค้าจะมีทีมของเค้ามา 2 คน ซึ่งเป็นเหมือนสถาปนิกออกแบบว่าจะต้อง วางผังยังไง จุดยืนตรงไหน ต้องโยงเทปแบบไหนเพื่อให้มันขึ้นฟอร์มเหมือนที่เค้าต้องการได้ ผมเข้าไปประสานงาน เพราะว่ามันไม่ค่อยมีคนพูดภาษาอังกฤษได้

กว้าง: ถ้ามันเป็นงานแขวนรูปทั่วไป มันธรรมดามากไง แต่ถ้าที่ชอบส่วนตัวก็คือ ชอบงานที่มันเป็นงานใหม่ ๆ ที่เราไม่รู้ในเชิงเทคนิค (Technical) อย่างบางงานเค้าก็จะมีคู่มือมาให้เราเลย

ต้องจี้: สำหรับผมงานที่ท้าทายคืองานไทยแลนด์เบียนนาเล่โคราช 2021 เป็นงานของกลุ่มศิลปินชื่อว่า ‘KaiKen’ มาจากลอนดอนและเบอร์ลิน  

งานจะเป็นคล้าย ๆ เกมส์ ตื่นเต้นตรงที่ว่าเราต้องทําไฟแอลอีดี (LED) ให้มันอยู่ในบ่อน้ำได้ ก็ค่อนข้างวุ่นวาย ลุ้นเหมือนกัน เพราะมันพร้อมจะเออเร่อได้ตลอดเวลา

Wisdoms for Love 3.0 (2021) ภาพจากเว็ป Thailand Biennale Korat 

ต้องจี้: แต่ว่าคนที่ตื่นเต้นสุดน่าจะเป็นคนคีย์โปรแกรม เค้าจะต้องคุยกับทีมที่อยู่เมืองนอกแบบรีโมทคุยกัน แต่ในเชิงเทคนิค เราก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ฮ่าๆ

เรื่องค่าแรงการทำงานเป็นยังไงบ้าง?

กว้าง: มันก็ต้องเอาให้พอ ถ้าเกิดว่า Budget ไม่ถึงเราก็ต้องลดสเปคลง คือมันค่อนข้างจะตายตัวอยู่แล้วสําหรับค่าแรงของเรา ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าจะสู้ราคาไหม

ถ้ายิ่งงานยากค่าแรงก็ต้องมากขึ้นใช่ไหม?

ต้องจี้: งานยากมันก็จะเป็นเรื่องของเวลา

กว้าง: เพราะงานยากมันก็ต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น ใช้แรงงานคนมากขึ้น เราต้องมาประเมินว่าใช้คนเท่าไหร่ในการทํางานแต่ละครั้ง

นิเวศศิลปะกับอาชีพ Art Handler ในเชียงใหม่ 

กว้าง: คือเชียงใหม่มันจะเป็นอารมณ์ที่เริ่มจากการไปช่วยกันมากกว่า แต่ไม่ว่าจะที่ไหนเขาก็ต้องการคนไปติดตั้งงานศิลปะ เพราะสำหรับศิลปิน บางคนเขาก็ไม่ได้ติดตั้งผลงานเอง

กว้าง: แต่ทุกวันนี้เราก็จะพยายามทําให้มันเป็นฟอร์มของการเสนอราคา ที่มันเป็นทางการขึ้น เพราะไม่งั้นมันไม่มีหลักฐาน หรือลายลักษณ์อักษรอะไรในการว่าจ้าง 

ต้องจี้:  เพราะตอนนี้เราจดบริษัทฯแล้วชื่อว่า New Found Art Handler

กว้าง: เป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ (Production House) รับงานหลายแบบ ถ้าจะรอแต่งานติดตั้งศิลปะเชียงใหม่ไม่ได้มีเยอะตลอด ก็ต้องเป็นหลายอย่างทั้งออกแบบ ผลิต ติดตั้ง ครบวงจร ถ้าอันไหนเราทำไม่ได้ก็แค่โอเค ทำไม่ได้  แต่ส่วนมากมันไม่มีคําว่าทําไม่ได้หรอก ถ้าบัทเจ็ทมันถึง (หัวเราะ) ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเงิน

ภาพจาก Tongjy Wipoopong Jiraprapoosak 

ต้องจี้: อยากจะมีเด็กฝึกงานบ้างสําหรับคนที่สนใจอยากทํางานด้านนี้  แล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา (หัวเราะ)

แล้วส่วนใหญ่งานก็จะตามมากับศิลปินที่อยู่เชียงใหม่ด้วยไหม ? 

กว้าง: ก็มีนักศึกษาที่เค้ามาแสดงงานตัวจบ หรือมีนักศึกษาต่างชาติ อย่างตอนนี้ก็มีคนจีนที่เรียน ป.เอกวิจิตรศิลป์ เราก็รับ  หรือไม่ก็เป็น Collector (นักสะสม) ต่างชาติให้เราไปติดงานที่บ้าน

แล้วนอกจากทักษะการติดตั้งหรือว่าการใช้เครื่องมือ สิ่งที่จําเป็นของการเป็น Art Handler คืออะไร ?

กว้าง: การวางแผน ว่าต้องเริ่มยังไง มีแผนงานว่าจะต้องผลิตอะไรขึ้นมาบ้างในการทำงานรอบนี้ จะแบ่งคนยังไง ให้งานมันเร็วขึ้น ส่วนมากตอนนี้เป็นงานจัดการมากกว่า ส่วนงานบู๊ก็ให้น้อง ๆ ทํา เพราะเดี๋ยวนี้สังขารเริ่มไม่ดี

ต้องจี้: ก็มีเรื่องภาษาบ้าง นิดหน่อย

กว้าง: ภาษาไทยนะ ที่คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย

ต้องจี้: ภาษาอังกฤษดิ…

ได้เรียนรู้อะไรมาบ้างจากเมื่อก่อนที่ไปช่วยซัพพอร์ตทีมอื่น ๆ ก่อนจะมาเปิดบริษัทของตัวเอง

ต้องจี้: เรื่องการจัดการนะ

กว้าง: ใช่ ส่วนมากจะเป็นเรื่องนั้น เรื่องสเกลงานที่ใหญ่เกินตัว มันอาจจะไม่เป็นผลดีต่อบริษัทแล้วก็ต่อลูกค้า ต้องรู้ว่าเราทำได้และทํามันได้ดี เราก็จะจัดการแค่นั้นพอ ถ้าเกิดว่าใหญ่เกินตัวอาจจะต้องไปหาคนซัพพอร์ตเพิ่ม หรือว่าต้องมีอีกทีมที่เข้ามา แล้วแบ่งงานไปเลยคนละส่วน บางทีการที่เรารับทุกอย่างหมด มันไม่เวิร์กสักอย่าง

ต้องจี้: “ก็ต้องมีแผนสํารองด้วย”

ภาพจาก Tongjy Wipoopong Jiraprapoosak 

ใครก็สามารถเป็น Art Handler ได้ไหม?  

กว้าง: จริงๆ มันก็ใกล้กับงานช่างมากนะ

ต้องจี้: ใกล้มาก แต่มีความละเอียดมากกว่า คือมันต้องเข้าใจพื้นที่ เข้าใจชิ้นงาน

ต้องเข้าใจงานศิลปะด้วยไหม ?

ต้องจี้: เข้าใจนิดนึง

กว้าง: คำว่าเข้าใจ คือมองภาพออกดีกว่า ว่าสิ่งที่เรากําลังจะทํามันควรจะออกมารูปแบบไหน คือไม่ต้องเข้าใจเนื้อหาหรือไปถึงคอนเซ็ปต์ขนาดนั้น

ต้องจี้: มองเห็นปลายทางมันว่า อ๋อ มันจะออกมาเป็นอย่างนี้

กว้าง: ต้องรู้ว่าอันไหนจําเป็น และไม่จําเป็นที่จะต้องมานั่งละเอียด อันไหนที่ต้องโชว์ มันก็ต้องออกมาโอเค แต่อันไหนที่มันอยู่ข้างหลังบางทีก็ช่างมัน เพราะว่าข้อจํากัดของมันคือเวลา

คิดว่าอะไรที่ยังทําให้ทําอาชีพนี้อยู่ ?

กว้าง: เงินครับ (หัวเราะ) อย่างเดียวเลย

ต้องจี้:  หนึ่ง โอเคเรื่องค่ารงค่าแรง แล้วสองก็คือไลฟ์สไตล์ของเรามันไม่เหมาะที่จะไปทํางานประจํา เพราะฉะนั้นการเป็นฟรีแลนซ์ Art Handler แบบนี้มันก็ค่อนข้างจะตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต

กว้าง: ถ้าถูก 30 ล้าน สัญญาเลยจะไม่เห็นพี่จับสว่าน

ภาพจาก Tongjy Wipoopong Jiraprapoosak 

หลังจากที่ได้ทํางานกับน้อง ๆ เด็กรุ่นใหม่ในทีมเป็นยังไงบ้าง?

กว้าง: ตอนนี้ก็มีเด็กวิจิตรฯ มช. ที่เรากำลังพยายามสร้างทีมขึ้นมาอยู่ ก็ดีครับ ถือว่าทํางานได้ดีเลย ไม่มีปัญหาอะไร

ต้องจี้: คือดีที่ว่าพวกน้อง ๆ มากันเป็นทีมเลย เป็นเพื่อนกันหมด รู้จักกันหมด

กว้าง: มันก็เลยทํางานง่ายขึ้น พอทีมมันมีคนน่ะ เราก็ไม่ต้องมากังวลว่าคนจะพอหรือไม่พอ สามารถรับงานสเกลใหญ่ได้มากขึ้น แล้วเมื่อก่อนทํากันสองคน สามคน บางงานมันก็ไม่ไหว

ภาพจาก Tongjy Wipoopong Jiraprapoosak 

แสดงว่าเริ่มมีคนที่สนใจอยากทําอาชีพนี้มากขึ้น

กว้าง: มันไม่ค่อยมีอาชีพนี้อยู่แล้วในเชียงใหม่ เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นปากต่อปาก ดึงเพื่อนของเพื่อน น้อง คนรู้จัก เข้ามาทํามากกว่า เราเองก็ไม่เคยเปิดรับสมัคร ก็จะเป็นการถามว่า ช่วงนี้มีงาน มีใครว่างบ้าง 

ต้องจี้: คิดว่ามีคนนอกที่อยากทํา แต่พอเขาไม่รู้จักเราเค้าก็ไม่กล้ามาคุยกับเรา อย่างแก๊งค์เด็กวิจิตรฯ รู้จักกันเพราะเคยร่วมงานกับน้อง ๆ ตอนทำโปรเจค IBM 1401 มันใช้เวลาซักพักนึงเราก็เริ่มสนิทกัน ก็เห็นว่าแต่ละคนมันทํางานได้ ก็เลยชวนมาทําต่อ

ภาพจาก Tongjy Wipoopong Jiraprapoosak 

ก่อนหน้านี้คิดจะเปิดบริษัทอยู่แล้วไหม?

กว้าง: ก็คิดว่าจะเปิดอยู่แล้วนะ เพราะเรื่องรับงานนั่นแหละ มันก็จะเป็นเรื่องของความไว้วางใจมากกว่า

ต้องจี้: เอาไว้รับงานบางประเภทที่มันจำเป็นจะต้องใช้ความน่าเชื่อถือ

โปรเจ็คไหนใหญ่ที่สุดที่เคยทํา แล้วได้บทเรียนอะไรบ้าง?

ต้องจี้: ไทยแลนด์เบียนนาเล่

กว้าง: บางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ กับไทยแลนด์เบียนนาเล่ แต่ของปีนี้ที่เชียงรายน่าจะใหญ่สุด เราได้เห็นปัญหาว่างานที่สเกลใหญ่ ก็จะทำให้จัดการขึ้นยากกว่าเดิม

เห็นว่าตอนทำไทยแลนด์เบียนนาเล่ก็ได้ทำงานกับช่างหรือสล่าในพื้นที่ท้องถิ่นด้วย

ต้องจี้: ที่เจอมาเค้าก็น่ารัก เพราะเค้าก็เปิดกว้าง คือไม่ใช่ช่างที่ดื้ออ่ะ แต่บางวัสดุที่เขาเลือกมาใช้มันอาจจะไม่ตรงสเปคเรา เราก็ต้องไปกำกับเขาอีกที ไปบอกเค้าว่า “จุดนี้มันไม่ได้นะครับ” มันก็ไปท้าทายกับเค้ามาก

การทํางานที่ต่างจังหวัดกับที่กรุงเทพฯ มีความแตกต่างกันยังไงบ้าง ?

ต้องจี้: ต้องแยกดีกว่า ถ้าเชียงใหม่ไม่มีปัญหาเพราะว่าเราเป็นคนพื้นที่ อย่างกรุงเทพฯ เราไม่ค่อยรู้ มันเลยมีปัญหาเรื่องการซื้อของ ขนของ เหมือนที่เชียงรายก็มีปัญหา หาซื้อของยาก ไกล

กว้าง: ไซต์มันไกลด้วย อย่างเชียงแสนก็ไม่มีที่ให้ซื้อของสะดวกได้

ศิลปินจำเป็นต้องใช้ Art Handler ไหม หรือทําเองก็ได้เหมือนกัน

กว้าง: ถ้าศิลปินที่เขารู้ว่าจะจัดการงานยังไง แล้ววางแผนการเซ็ตอัพอยู่แล้ว ก็จะไม่มีปัญหาเลย เหมือนศิลปินต่างชาติที่เขามีคู่มือการติดตั้งมาให้ อันนี้แทบไม่ต้องใช้พวกเราเลย

กว้าง: ถ้าสมมุติว่าผมไปทํางานศิลปะ ผมก็ไม่ต้องใช้ Art Handler ถ้าเกิดว่าเราวางแผนแล้ว ไปดูสถานที่แล้ว รู้แล้วว่าจะทํางานกับพื้นที่ตรงนี้ แล้วจะเอา Art Handler มาทำไม ก็อาจจะไม่จำเป็น

แสดงว่าเป็นสกิลที่ทุกคนควรจะมีหรือเปล่า ?

ต้องจี้: บางคนเค้าก็ไม่เข้าใจ แต่ศิลปินบางคนเค้ารู้โพรเสสงานติดตั้ง เค้าก็ไม่จําเป็นต้องมี Art Handler เค้าก็ติดตั้งงานเองได้ แต่ศิลปินบางคน อาจจะไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับติดตั้งเลยก็มี

กว้าง: หรือบางทีเค้าทํางานออกมาชิ้นนึง เค้ายังไม่รู้จะแสดงยังไง อยากให้มันลอยกลางอากาศ เราก็ต้องไปจัดการให้เค้า  ไปอธิบายให้ฟังว่าต้องใช้อุปกรณ์อะไร ต้องมีสลิงนะ เหมือนไปเป็นเป็นที่ปรึกษาให้เค้าด้วย มีหลายคนที่เป็นอย่างนั้น

โอเค พอเข้าใจเรื่องการทำงานศิลปิน แล้วการทำงานกับคิวเรเตอร์ล่ะ? 

กว้าง: คิวเรเตอร์เก่ง ๆ จะทําให้เราจัดการและคุยกับศิลปินให้จบได้ ถ้าแผนมันชัดเจนก็ง่ายกว่าการที่เราจะต้องมานั่งเดาทางว่างานจะออกมาเป็นยังไง

อยากให้อาชีพ Art Handler ในเชียงใหม่เป็นยังไงต่อไป

กว้าง: มันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ เพียงแต่ว่างาน Art Handler เนี่ย ในเชียงใหม่เค้าก็จะคิดว่ามันแพง คนเชียงใหม่ไม่สู้ราคา บางทีศิลปินเค้าก็จะบอก “เฮ้ย แพง” แต่ก็นั่นแหละ เราก็ไม่รับ เราเข้าใจว่าจ้างช่างทั่วไปมันก็ถูกกว่า”

ต้องจี้: เราก็ไม่ได้โกรธหรอกที่เขาบอกว่าแพง

กว้าง: อีกเรื่องก็คือ การที่คุณจะให้เราเข้ามาเซ็ตอัพ หนึ่งก็คือคุณก็ต้องเข้าใจงานของคุณก่อน ว่าคุณอยากจะโชว์ยังไง บางทีเราก็ไม่สามารถจะตัดสินใจแทนคุณได้ เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องมีภาพชัดในหัวว่านิทรรศการคุณจะออกมาเป็นยังไงก่อน คือถ้าเข้าไปแล้วแบลงค์ๆ มันก็ไม่ได้เริ่มงาน

ต้องจี้: จริงๆ ก็อยากให้แวดวงมันโตขึ้นมาอีกสักหน่อย อาชีพนี้มันจะได้อยู่ได้อยากให้คนที่จ้างเรา เข้าใจว่าบางทีเราเรียกราคาไปอาจจะสูงนิดนึง แต่งานที่เราทําให้มันคุ้มค่า แล้วเราก็ทําออกมาดีที่สุด

ถึงแม้ว่าจะมัวแต่จับสว่านจนไม่ค่อยได้ลงรูปผลงาน แต่ก็อยากฝากทุกคนไปติดตามกันได้ที่ Instagram New Found Art Handler  (@newfoundarthandler) ที่จะกลับมาอัพเดตอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ต้องจี้และกว้างกล่าวทิ้งท้าย

(ไอซ์) เกิดและโตที่เชียงใหม่ ก่อตั้งกลุ่ม SYNC SPACE ผลักดันพื้นที่สร้างสรรค์สาธารณะโดยชุมชนและคนรุ่นใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง