สถานะของหัวเมืองฝ่ายเหนือช่วงปลายสมัยอยุธยา นิธิ เอียวศรีวงศ์ ได้อธิบายถึงลักษณะของรัฐอยุธยาในช่วงปลายและอำนาจของหัวเมืองฝ่ายเหนือไว้ว่า ในหัวเมืองฝ่ายเหนือ อยุธยาและกำแพงเพชรเป็นเมืองหลวงคู่กับพิษณุโลกเพราะอยุธยาได้แยกสุโขทัยออกเป็นเสี่ยง ๆ เจ้าเมืองทั้งสองมียศเป็นพระยาเท่ากันตามทำเนียบ ร่องรอยศักดิ์ศรีเมืองกำแพงเพชรตามที่เหลือให้เห็นในทำเนียบศักดินาทหารหัวเมืองได้เป็นตัวบ่งบอกว่าครั้งหนึ่งกำแพงเพชรเลยจัดอยู่ในฐานะทัดเทียมกับเมืองพิษณุโลก และแม้แต่ปลายสมัยอยุธยาเมืองกำแพงเพชรก็ยังมีศักดิ์ศรีสูงในสายตาของราชการอยุธยา[1]
ช่วงสงครามและการเสียกรุงฯ บทบาทของเจ้าพระยาพิษณุโลกช่วงปลายสมัยหรือช่วงเสียกรุงฯ ที่ขณะนั้นเป็นการเมืองแบบชุมนุมอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งเจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง โรจนกุล) มีบทบาททางการเมืองในแถบหัวเมืองฝ่ายเหนือเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการที่พระเจ้ากรุงธนบุรีตัดสินพระทัยปราบชุมนุมของเจ้าพระยาพิษณุโลกก่อนชุมนุมอื่น แม้สามารถกุมกลไกการปกครองท้องถิ่นของราชการอาณาจักรอยุธยาไว้ได้ เพราะดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองเอกที่มีศักดิ์มากกว่าหัวเมืองเหนือทุกเมืองแต่กลไกท้องถิ่นของอยุธยานั้นมีขีดจำกัด[2]
จุดมุ่งหมายของการจัดการปกครองส่วนภูมิภาคของอยุธยาคือ การวางมาตรการที่จะจำกัดอำนาจของเจ้าเมืองไว้ให้อยู่เฉพาะในเขตเมืองของตนเองความแตกต่างระหว่างหัวเมืองเอกและหัวเมืองโทแทบจะไม่เหลือให้เห็นมากนัก ยกเว้นแต่เกียรติยศที่ว่างเปล่าไร้ความหมาย สถานะนั้นไม่มีความหมายนอกเขตเมืองพิษณุโลก ในขณะที่เจ้าพระยาพิษณุโลกต้องการจะมีอำนาจเหนือหัวเมืองเหนือทั้งหมด จึงจำเป็นที่เจ้าพระยาพิษณุโลกต้องเปลี่ยนสถานะของตนเองมาเป็นพระมหากษัตริย์ โดยอาศัยตำแหน่งนี้เท่านั้นที่เจ้าพระยาพิษณุโลกจะมีความหมายต่อผู้นำท้องถิ่นสุโขทัย, สวรรคโลก, กำแพงเพชร, ตาก ได้ รายงานของบุคคลร่วมสมัยกล่าวว่าพระยาพิษณุโลกได้กรีธาพลใหญ่ไปรบกับพระครูสวางคบุรีถึง 3 ครั้ง ไม่ชนะไม่แพ้กัน ท้ายที่สุด “พระยาพิษณุโลกครองราชย์สมบัติ 6 เดือน พระชนมพรรษาได้ 49 ปี ก็สวรรคตไปตามยถากรรม”[3]
อ้างอิง
- [1] นิธิ เอียวศรีวงศ์, การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี (กรุงเทพฯ: มติชน,พิมพ์ครั้งที่14,2562) หน้า101-102.
- [2] เรื่องเดียวกัน, หน้า150-151.
- [3] เรื่องเดียวกัน, หน้า150-151.
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...