คนชาติพันธุ์-ภาคปชช. ผิดหวังหลังสภาฯ มีมติไม่รับรองม.27 กฎหมายชาติพันธุ์ เตือนอย่าหลงเชื่อ สส. กล่าวหาทำลายป่า

5 กุมภาพันธ์ 2568 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตชาติพันธุ์ โดยเฉพาะมาตรา 27 ซึ่งเกี่ยวข้องกับพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ประเด็นดังกล่าวได้รับการอภิปรายจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วน และท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติไม่รับรองมาตรา 27 โดยให้เหตุผลว่าไม่เห็นด้วยกับหลักการพื้นที่คุ้มครองชาติพันธุ์ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอ แต่เห็นด้วยกับแนวทางของกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ซึ่งเน้นว่าการกำหนดพื้นที่คุ้มครองต้องไม่กระทบต่อกฎหมายอื่น

สำหรับร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. … หมวด 5 ว่าด้วยพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ (มาตรา 27 – 32) มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ดำเนินไปโดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งผลให้ที่ดินทำกินของชุมชนถูกประกาศเป็นพื้นที่ของรัฐ และกระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์

โดยมาตรา 27 กำหนดให้มีการประกาศพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อคุ้มครองและรักษาวิถีชีวิตของชุมชน โดยต้องมีข้อตกลงร่วมระหว่างชุมชนและเจ้าหน้าที่ ผ่านแผนแม่บทและกติกาการจัดการพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการขอยกเว้นกฎหมายบางฉบับ เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวน ในพื้นที่คุ้มครอง เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์

เสอะเยียเบ่อ งามยิ่ง เครือข่ายกะเหรี่ยงตะวันตกเพื่อความเป็นธรรม ระบุว่า รู้สึกเสียใจที่ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้รับการรับรองจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญต่อการรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและสิทธิในที่ดินทำกินของพวกเขา แม้จะผิดหวัง แต่ชาวบ้านยังมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ต่อไป โดยหาวิธีทำให้ผู้มีอำนาจและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าใจถึงวัฒนธรรม จารีตประเพณี และวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์

“พวกเรากฎหมายและนโยบายเป็นเรื่องซับซ้อน และชาวบ้านบางส่วนอาจไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของลูกหลาน พวกเราจะเดินหน้าต่อไป โดยอาจยกระดับการเคลื่อนไหวให้มีพลังมากขึ้น และขยายการเรียกร้องไปยังหลายจังหวัด เพื่อรักษาทรัพยากรที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรค แต่พวกเราพร้อมจะเดินหน้าต่อไปเพื่อสิทธิและอนาคตของชุมชน” เสอะเยียเบ่อ กล่าว

พชร คำชำนาญ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .… กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้รับการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าได้ร่วมกับชาวบ้านและกลุ่มชาติพันธุ์ในการร่างกฎหมายนี้ โดยหวังว่ากฎหมายจะคุ้มครองวิถีชีวิตของพวกเขาอย่างแท้จริง แต่ในที่สุดร่างกฎหมายก็ถูกคัดค้านจากบางกลุ่มในพรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงถึงความขัดแย้งทางผลประโยชน์จากฝ่ายรัฐและกลุ่มธุรกิจ

ซึ่งพชร มองว่าคำอภิปรายจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนแสดงถึงการสนับสนุนผลประโยชน์ของรัฐและธุรกิจเหมือง ซึ่งทำให้เห็นชัดเจนว่าแต่ละพรรคมีผลประโยชน์ของตัวเอง แม้จะเสียใจแต่ผู้พูดยืนยันว่าจะยังไม่ยอมแพ้ โดยพรรคประชาชนมีการตัดสินใจแถลงข่าวคัดค้านร่างกฎหมายทั้งฉบับ เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายนี้ไม่สามารถคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ พชรยังฝากถึงพรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมที่ไม่ดำเนินการสนับสนุนร่างกฎหมายอย่างจริงจัง และเตือนสังคมอย่าเชื่อการโจมตีจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวหาว่ากลุ่มชาติพันธุ์จะทำลายป่าและแบ่งแยกดินแดน ทั้งนี้กลุ่มชาติพันธุ์ยืนยันที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิและความเท่าเทียมของพวกเขาในการมีส่วนร่วมในสังคมอย่างเต็มที่ แม้ว่ากฎหมายนี้จะไม่ได้รับการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง