ท่อวางผิดชีวิตเปลี่ยน ทุกข์คนบ้านนางแตน ปัญหาซ้ำเมิน ก๋านแก้ปัญหาบ่าเกิด

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

  • หน่วยงานภาครัฐร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ลำน้ำแม่ยาวเพื่อสนับสนุนการเกษตรแปลงใหญ่ หมู่ 1, 2, 3, 4, 10, 11 ตำบลเกาะคา ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง หวังแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรในพื้นที่
  • โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำส่งผลกระทบกับที่ดินของเกษตรของบ้านนางแตน โดยมีการวางแนวท่อเข้ามาในพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน และขุดเจาะแนวดินเพื่อวางท่อ แนวท่อขุดลึกลงไปประมาณ 2 เมตร ทั้งที่แต่เดิมการวางท่อต้องอยู่ในเขตถนนสาธารณะของหมู่บ้าน
  • มีโครงการพัฒนาบริหารโครงการแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ ที่มีลักษณะและวัตถุประสงค์เหมือนกันกับ “โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ลำน้ำแม่ยาวเพื่อสนับสนุนการเกษตรแปลงใหญ่ หมู่ 1, 2, 3, 4, 10, 11 ตำบลเกาะคา ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง” กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศ จากความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวถึงความมั่นคงของการใช้น้ำ
  • โครงการของรัฐส่งผลกระทบที่น่ากังวลต่อชาวบ้านในพื้นที่จนทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่รวมกลุ่มจนเกิดเป็นขบวนการชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาทวงคืนสิทธิ์ให้แก่ตนเอง แต่ด้วยอำนาจของประชาชนยังไม่มากพอ จำเป็นต้องพึ่งพาหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ส่งผลให้ปัจจุบันเรื่องดังกล่าว ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด

“เกาะคา” อำเภอหนึ่งในจังหวัดลำปาง ที่มีระยะทางห่างจากอำเภอเมืองลำปางเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น โดยที่มาของชื่อเกาะคามาจากพื้นที่ทางกายภาพที่เรียบชิดติดกับลำน้ำสำคัญ คือ ลำน้ำยาวจากทิวเขาขุนตาลที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำวัง พร้อมกับการพัดพาของตะกอนหินและทรายรวมกันเป็นสันดอนจนมีหญ้าคาขึ้นงอก จึงเป็นที่มาของอำเภอสบยาว ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอเกาะคา ในปี 2459 ด้วยความที่อยู่ใกล้ชิดกับแหล่งน้ำ วิถีชีวิตของคนในพื้นที่จึงยึดโยงกับการเกษตร พื้นที่เกษตรของอำเภอเกาะคามีจำนวน 50,975.95 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดของอำเภอเกาะคาจำนวนกว่า 344,469 ไร่ และส่วนใหญ่เป็นการปลูกข้าวมากถึง 40,084.83 ไร่ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแหล่งน้ำที่มีผลอย่างมากต่อการทำการเกษตร

แผนพัฒนาอำเภอเกาะคา 5 ปี (2566 – 2570) ฉบับทบทวนปี 2567

หากมองกรอบจากแผนพัฒนาอำเภอเกาะคา 5 ปี (2566 – 2570) ฉบับทบทวนปี 2567 มีการระบุถึงระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนการเกษตร ในประเด็นการพัฒนาจังหวัดด้านการพัฒนาเกษตรเชิงคุณภาพ เกษตรแปรรูปมูลค่าสูงด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะยกระดับการจัดการทรัพยากรทางการเกษตรและเข้าสู่โมเดล BCG (ฺBio economy – Circular economy – Green economy) ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำที่จะเป็นต้นทุนสำคัญของระบบการเกษตรของอำเภอเกาะคา 

เมื่อแหล่งน้ำมีผลสำคัญต่อการเกษตรโดยทั้งจังหวัดลำปางมีพื้นที่เพาะปลูกและทำการเกษตรมีจำนวนมาก หน่วยงานรัฐจึงมองเห็นแนวทางการจัดการนี้โดยภายในอำเภอเกาะคาจึงมีโครงการชลประทานที่ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 2 อ่าง, อ่างเก็บน้ำพระราชดำริ จำนวน 4 อ่าง, อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก จำนวน 5 อ่าง, ฝายพระราชดำริ จำนวน 1 ฝาย, ฝายขนาดเล็ก จำนวน 14 อ่าง ขณะที่มีสถานีสูบน้ำ จำนวน 15 สถานี โครงการเหล่านี้เกิดขึ้นจากวัตถุประสงค์ ในการยกระดับความมั่นคงของการใช้น้ำและสร้างเสถียรภาพต่อการดึงน้ำจากแหล่งน้ำเหล่านี้มาใช้ ท่ามกลางสถานการณ์ของธรรมชาติที่ทำให้เรื่องน้ำกลายเป็นวาระสำคัญที่ทุกหน่วยงานภาครัฐจำเป็นต้องบรรจุโครงการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำไว้ในแผน

โดยประชาชนในพื้นที่เผยว่าในช่วงแรกโครงการนี้จะมีการก่อสร้างขึ้นในตำบลเกาะคา แต่ไม่ผ่านประชาคม จึงได้มีการผลักดันไปที่ตำบลท่าผา หลังจากนั้นส่วนราชการแจ้งว่าเงินมาแล้วต้องมาลงโครงการจึงได้มีการเสนอเป็นตำบลท่าผา ส่วนที่ประชาชนไม่ได้ทักท้วงช่วงก่อสร้าง เนื่องจากผู้บริหารเทศบาลตำบลท่าผาแจ้งว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ในภายหลัง จึงทำให้เกิดการก่อสร้างขึ้น

ข้อมูลดำเนินงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 ในส่วนราชการสังกัดกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเทศบาลตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอำนาจในการส่งเสริมการทำมาหากินของประชาชน ได้มีการร่วมมือกันดำเนินงานโครงการ “โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ลำน้ำแม่ยาวเพื่อสนับสนุนการเกษตรแปลงใหญ่ หมู่ 1, 2, 3, 4, 10, 11 ตำบลเกาะคา ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง” ภายใต้งบประมาณ 79,800,000 บาท ซึ่งโครงการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการถ่ายโอนภารกิจมาอยู่ภายใต้ความดูแลของเทศบาลตำบลท่าผา จากการตรวจสอบของชาวบ้านในพื้นที่พบว่า โครงการดังกล่าวมีการวางแนวท่อเข้ามาในพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน มีการขุดเจาะแนวดินเพื่อวางท่อ แนวท่อขุดลึกลงไปประมาณ 2 เมตร ขณะที่พื้นที่ตามแนวโครงการเดิมบนถนนสาธารณะมีการขุดเจาะถนนเป็นแนวยาวและฉาบปูนตามแนวถนนให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ ข้อมูลจากแหล่งข่าวในพื้นที่ได้แจ้งว่า ปัจจุบันประชาชนที่ทำการเกษตรในพื้นที่กำลังเผชิญหน้าต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น 

บริเวณที่ตั้งโครงการ
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563

ท้องถิ่นลำเค็ญกับการพึ่งพาระบบงบประมาณรวมศูนย์ ว่าด้วยงบท้องถิ่น งบส่วนราชการ อุปสรรคการพัฒนาเพื่อประชาชน

การจัดทำงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 กำกับกระบวนการงบประมาณไว้ทั้งระบบ เมื่อพิจารณาความเป็นอิสระของระบบงบประมาณยังคงสะท้อนให้เห็นว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาระบบของกระทรวงมหาดไทยที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางในการพัฒนาสาธารณูปโภคขนาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากข้อมูลของเทศบาลตำบลท่าผา รายงานสถิติการคลังประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประเภทรายรับจริงและรายจ่ายจริง ปรากฎว่ามีรายรับทั้งหมด 47,526,068.34 บาท และรายจ่ายทั้งสิ้น 41,517,370.87 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เทศบาลตำบลท่าผาจะสามารถนำเอางบประมาณของเทศบาลฯ มาจัดทำโครงการในรูปแบบหรือลักษณะดังกล่าว แม้ว่าอำนาจของเทศบาลฯ จะมีเรื่องของการจัดทำสาธารณูปโภคก็ตาม  ดังนั้นความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐในด้านงบประมาณจึงมีสภาวะพึ่งพากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

รายงานสถิติการคลังประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประเภทรายรับจริงและรายจ่ายจริง

หากมาดูที่ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ (Straegic performance based budgeting : SPBB) ที่เน้นการวางแผนและจัดการภายใต้ยุทธศาสตร์ เดิมทีที่มุ่งเน้นงบประมาณระบบแสดงรายการพัฒนาต่อเป็นระบบแสดงผลงาน ระบบแสดงแผนงานและระบบมุ่งเน้นผลงานมาตามลำดับ เมื่อพิจารณาจากระบบงบประมาณข้างต้น และหากเจาะลึกไปในรายละเอียดงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำ เจ้าภาพหลักในการดำเนินงานโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ลำน้ำแม่ยาวเพื่อสนับสนุนการเกษตรแปลงใหญ่

งบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในเอกสารงบประมาณฉบับที่ 3 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เล่มที่ 6 ระบุว่ามีทั้งสิ้น 7,550,439,800 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะ และการพัฒนาบริหารโครงการแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ

ซึ่งโครงการทั้งหมดนั้นมีลักษณะและวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับ “โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ลำน้ำแม่ยาวเพื่อสนับสนุนการเกษตรแปลงใหญ่ หมู่ 1, 2, 3, 4, 10, 11 ตำบลเกาะคา ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง”  โดยในปี 2567 มี 271 แห่ง งบประมาณ 3,006.0819 ล้านบาท, ปี 2568 มี 131 แห่ง งบประมาณ 3,595.5956 ล้านบาท, ปี 2569 มี 196 แห่ง งบประมาณ 5,393.3934 ล้านบาท, ปี 2570 มี 196 แห่ง งบประมาณ 5,393.3934 ล้านบาท, และปี 2571 มี 196 แห่ง งบประมาณ 5,393.3934 ล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นกระจัดกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ 

เอกสารงบประมาณฉบับที่ 3 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เล่มที่ 6

เมื่อการเคลื่อนไหวปรากฎ ความจริงที่หนีไม่พ้น

ประชาชนชี้จุดที่ได้รับผลกระทบ

โครงการดังกล่าวที่เข้ามาแก้ไขปัญหากลับส่งผลกระทบที่น่ากังวล นำมาซึ่งการต่อต้านจากประชาชนบ้านนางแตน หมู่ 1 ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา ที่รวมกลุ่มจนเกิดเป็นขบวนการประชาชนที่ลุกขึ้นมาทวงคืนสิทธิ์แก่ตนเอง ที่เริ่มก่อรูปตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2567 เรียกร้องให้กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำท่อส่งน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรของประชาชน ซึ่งการก่อสร้างของโครงการดังกล่าวล้ำเข้าไร่นาของประชาชน จากเดิมที่กรมทรัพยากรน้ำ ได้แจ้งว่าโครงการดังกล่าวจะนำท่อวางตามแนวถนนสาธารณะของหมู่บ้านเท่านั้น เมื่อการเคลื่อนไหวของประชาชนเริ่มปรากฎ วันที่ 19 มิถุนายน 2567 สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 ในฐานะตัวแทนกรมทรัพยากรน้ำ ได้ส่งผู้แทนมาร่วมหารือกับประชาชน พยายามหาทางออกร่วมกัน แต่ก็ยังไม่ได้นำแบบแปลนการก่อสร้างหรือเอกสารโครงการออกมาชี้แจงต่อประชาชนแต่อย่างใด

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนเชื่อว่าเป็นการดำเนินโครงการที่ “ผิดแบบแปลน”  โดยได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.), สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  เพื่อตรวจสอบ

“เอาโครงการเกี่ยวกับน้ำมาลง ประชาชนยินดีอยู่แล้ว เราทำการเกษตร น้ำเป็นสิ่งสำคัญ”

“ถ้าแก้ไขปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ ควรจะต้องพิจารณาตนเอง ฟังการแก้ตัวยิ่งทำให้เห็นว่าการทำงานให้ประชาชนรากหญ้าไม่มีจริง”

เสียงของประชาชนในพื้นที่กำลังประชุมล่วงหน้า ก่อนการลงพื้นที่ของกสม. ในวันที่ 17 กันยายน 2567 สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ ทั้งที่ผลกระทบนั้นได้เกิดขึ้นกับประชาชนโดยตรง

ภาพ : เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงพื้นที่ตรวจสอบ

ความพยายามของประชาชนในพื้นที่ได้ส่งหนังสือขอข้อมูลแบบแปลนการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไปยังเทศบาลตำบลท่าผา และได้รับคำตอบว่า เอกสารดังกล่าวไม่อยู่ในความครอบครองของเทศบาลตำบลท่าผาจึงไม่สามารถมีการตรวจสอบได้ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นวงกว้างและมีสื่อมวลชนเข้ามาสื่อสารประเด็นนี้ 

การพูดคุยกับตัวแทนประชาชนหลังจากที่สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 เข้ามาร่วมหารือ ทำให้พบว่า ประชาชนต้องการให้เกิดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน 

“หากปล่อยไว้แบบนี้ แล้วในอนาคตพวกเขาทำการเกษตรและไปโดนบริเวณท่อที่มีการฝังอยู่ในพื้นที่การเกษตร ก็กลัวว่าจะมีความผิดทำลายทรัพย์สินราชการ ประชาชนจึงต้องการให้หน่วยงานเร่งเอาท่อออก”

แนวเขตวางท่อของโครงการดังกล่าว

จากการพูดคุยกับ สุทธิพงษ์ ศรีพาณิชย์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าผา เขต 1 ทำให้ทราบว่า โครงการดังกล่าวมีปัญหาจากการวางท่อรุกล้ำที่ดินของประชาชน อีกทั้งยังถูกคัดค้านจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากโครงการนี้ไม่ผ่านสภาเทศบาลตำบลท่าผา จึงทำให้ไม่มีข้อมูลใดๆ เพื่อใช้ในการต่อสู้กับหน่วยงานราชการเลย และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็ทำให้พบว่า ปัจจุบันโครงการดังกล่าวยังสร้างความเสียหายต่อประชาชน โดยปริมาณน้ำที่ได้จากโครงการยังไม่สอดคล้องกับการทำการเกษตรแปลงใหญ่แต่อย่างใด

สุทธิพงษ์ ศรีพาณิชย์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าผา เขต 1

ภายหลังการร้องทุกข์ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินงานไปแล้วบางส่วน อาทิ กสม. ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสิทธิในที่ดิน ผ่านการประสานงานไปยังกรมที่ดิน เพื่อบ่งชี้ว่าพื้นที่ตามแนวการวางท่อเป็นพื้นที่ของประชาชนจริงหรือไม่ หากเป็นพื้นที่ของประชาชนจริง ก็จะเสนอความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคุ้มครองสิทธิให้กับประชาชน จากการติดตามความคืบหน้าล่าสุดพบว่ากำลังอยู่ระหว่างเสนอรายงานต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 

นอกจากนั้น ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อ 2 กรกฎาคม 2567 ส่วนความคืบหน้ายังไม่เกิดขึ้น ตลอดจนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้แจ้งว่ากำลังดำเนินการติดตามเรื่องนี้ ล่าสุดมีข่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการจบเรื่องแล้ว กำลังรอการแจ้งผลกลับมายังประชาชน

ภาพ : น้ำซึมจากท่อใต้ดินที่ชำรุด

จากการตรวจสอบโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ลำน้ำแม่ยาวฯ พบว่า ปัจจุบันมีสภาพชำรุด ถังเก็บน้ำแตก มีรอยร้าว ไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ทั้งที่โครงการนี้แล้วเสร็จตั้งแต่ วันที่ 19 เมษายน 2567

หาทางออกของวงเวียน วัฎจักรการต่อสู้ที่บ้านนางแตน

พระอาจารย์สาธิต ธีรปัญโญ แห่งสถาบันธรรมาภิวัฒน์ จังหวัดลำปาง หนึ่งในผู้มีบทบาทต่อสถานการณ์ทางสังคมในจังหวัดลำปางหลายกรณี ซึ่งกรณีนี้พระอาจารย์สาธิต ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลแก่ประชาชนในพื้นที่เช่นกัน 

พระอาจารย์สาธิต ธีรปัญโญ แห่งสถาบันธรรมาภิวัฒน์ จังหวัดลำปาง

พระอาจารย์สาธิตเผยว่า ชาวบ้านได้ร้องทุกข์ไปที่เครือข่ายศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคมุสลิมจังหวัดลำปาง จากนั้นเครือข่ายฯ ได้ประสานงานมาที่พระอาจารย์ จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ได้เจอกับชาวบ้านที่มาร้องทุกข์ร่วม 20 คน เมื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มี ตลอดจนลงพื้นที่ไปตรวจสอบในพื้นที่จริง ก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐเข้ามาละเมิดพื้นที่ของประชาชน

“แท้จริง เรื่องนี้เป็นเรื่องของการก่อสร้าง ช่วงแรกมีการทำตามแบบก่อสร้างปกติ มีการวางท่อตามแนวถนนสาธารณะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลายเป็นการเอาท่อมาขุดไว้ในที่นาของประชาชน ร่องรอยหลักฐานยังคงมีอยู่ จากนั้นเลยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ จนถึงวันนี้หลายหน่วยงานที่รับเรื่องไปยังไม่มีความคืบหน้าแจ้งกลับมาเลย ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าในขบวนการภาคประชาชนยังคงขาดแคลนองค์ความรู้ในการติดตามความคืบหน้าและติดตามความคืบหน้าจากหน่วยงานภาครัฐ แม้แต่ข้อกฎหมายที่ประชาชนคนธรรมดาไม่เข้าใจ” 

ภาพ : ท่อในพื้นที่นาของประชาชน

“หากเรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบอย่างจริงจัง เมื่อมีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนใด กระทำความผิดย่อมต้องดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งไม่ทราบว่าจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนที่จะมีการสรุปผลการตรวจสอบ แต่ความผิดที่เกิดขึ้นเป็นที่รับรู้ของประชาชนแล้ว สิ่งที่พระอาจารย์ยึดมั่น คือ เราต้องช่วยประชาชนในขบวนการต่อสู้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่ช่วย ประชาชนจะต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลและข้าราชการได้อย่างไร ท่ามกลางสถานการณ์การทุจริตในประเทศที่ผู้อำนาจควบคุมทุกอย่างไว้ได้ แม้แต่เรื่องของบ้านนางแตนที่อยู่ในพื้นที่ยังมีการข่มขู่คุกคามเลย”

พระอาจารย์สาธิต ทิ้งท้ายว่า “อนาคตหวังว่าการต่อสู้ของขบวนการภาคประชาชน จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ประชาชนมีอำนาจตรวจสอบหน่วยงานราชการอย่างแท้จริงและปรับเปลี่ยนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมต่อการตัดสินใจมากขึ้น” 

เช่นเดียวกับ สุทธิพงษ์ ศรีพาณิชย์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าผา เขต 1 ที่ให้ข้อมูลว่า ประชาชนยังคงรอติดตามความคืบหน้าตามที่ได้ร้องทุกข์ไปอย่างมีความหวัง แม้ว่าระยะเวลาการดำเนินการจะยาวนาน จนทำให้เสียกำลังใจไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นประชาชนก็ยังคงยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป

“ทุกวันนี้ประชาชนกำลังรอติดตามผลจากหน่วยงานที่ได้ร้องทุกข์ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้มีการเยียวยาประชาชน แม้ว่ามีกระแสข่าวว่าจะมีการรื้อหรือย้ายท่อก็ตาม ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปนานมากขึ้น ทำให้กำลังใจของขบวนการภาคประชาชนในพื้นที่ถดถอยลดน้อยลง มีความพยายามสร้างความกลัว เอานักกฎหมายมาข่มขู่ แต่ประชาชนที่ยังสู้ต่อ ทำให้ขบวนการประชาชนไปต่อได้”

จนถึงวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) ชาวบ้านในพื้นที่บ้านนางแตนยังคงรอคอยความคืบหน้าอย่างมีความหวัง แม้กำลังกาย กำลังใจจะอ่อนแอลงจากความนิ่งเงียบของระบบราชการที่ทำหน้าที่หน้าที่ตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมด โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด มีการสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แจ้งกลับประชาชนเพียงแค่ว่ารอคอยมติจากผู้มีอำนาจในการผลักดันเรื่องต่อ ส่วนหน่วยงานอื่นยังไม่ตอบกลับมาแต่อย่างใด หรือแม้แต่ท่อที่แตกในช่วงที่ผ่านมาได้มีการซ่อมแซมปรับปรุงจนแล้วเสร็จ จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ปรากฎว่า ท่อตรงจุดเดิม ได้แตกอีกรอบ ถือเป็นครั้งที่สองตั้งแต่โครงการดังกล่าวมีการเปิดใช้

ช่วงเวลาของการทำไร่นา แม้ความสูงของต้นหญ้าจะช่วยบดบังพื้นที่จนทำให้มองไม่เห็นถึงสิ่งที่หน่วยงานราชการได้ทำทิ้งไว้ในพื้นที่ของประชาชน แต่ท้ายที่สุดแล้วกาลเวลาที่เวียนผ่านจนฤดูทำนาหมดไป ส่งผลให้ร่องรอยของการวางท่อได้ปรากฏสู่สายตาผู้คนได้อย่างชัดเจน ท่อที่ฝังอยู่ในไร่นาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการละเมิดแนวเขตพื้นที่เพียงเท่านั้น คุณภาพของดินที่ใช้ในการทำการเกษตรก็ได้เปลี่ยนไป จนพื้นที่ดังกล่าวปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ความจริงที่เคยปิดบังกลับเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับกระบวนการตรวจสอบครั้งใหม่ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเสร็จสิ้น แต่ถึงอย่างนั้นยังไม่สามารถตอบได้เลยว่าผลการตรวจสอบหรือการเปลี่ยนแปลงสู่ฤดูกาลใหม่ สิ่งไหนจะเกิดขึ้นก่อนกัน สุดท้ายแล้วคงทำได้เพียงร่วมติดตามกันในตอนต่อไป

รายการอ้างอิง

⁃ สำนักงานเกษตรอำเภอเกาะคา, มีนาคม 2567

⁃ โครงการชลประทานลำปาง

https://www.bb.go.th/topic-detail.php?id=16760&mid=544&catID=1464 

https://old.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/download/article/article_20171122093446.pdf 

https://www.thapalampang.go.th/masterweb/รายง่รสถิติการคลังท้อง/ 

⁃ http://www.samorphlue.go.th/site/attachments/article/992/ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณของ อปท.2563.pdf

https://www.newslampang.com/content/9556/ ชาวบ้านนางแตน-หมู่1-ร้องสื่อหลังโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำฯ-วางท่อเข้าที่นาชาวบ้าน-ดินทรุดเป็นแนวยาว-ขอให้หน่วยงานย้ายออก

https://www.newslampang.com/content/9559/ กรมน้ำฯลงพื้นที่รับฟังปัญหาหลังชาวบ้านร้องให้ย้ายท่อกระจายน้ำออกจากที่นา-ขอชาวบ้านเห็นในความตั้งใจดีหากต้องรื้อทำใหม่ก็จะเสียงบประมาณอีกมาก-ขณะที่ชาวบ้านยันให้ย้ายออก

https://vt.tiktok.com/ZSjrj6gCB/

https://www.lannapost.net/2024/07/blog-post_44.html

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง