เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 เวลา 15.00 น. ชาวบ้านในชุมชนห้วยหินลาดใน ชุมชนห้วยหินลาดนอก และชุมชนบ้านผาเยือง ตำบลบ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จังหวัดเชียงราย เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จังหวัดเชียงราย ให้ตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ชุดดำเข้าดำเนินการอันเป็นการบุกรุกและทำลายทรัพย์สินในพื้นที่ชุมชนและไร่หมุนเวียนของชาวปกาเกอะญอ บ้านห้วยหินลาดใน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมี ธนชัย จิตนาวณิชย์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เป็นตัวแทนรับหนังสือจากทางชุมชน ก่อนทางหน่วยงานจะเชิญทางชุมชนเข้ารับฟังการชี้แจงในห้องประชุม
‘สำนักป่าไม้ที่ 2 เชียงราย’ เผยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้การปฏิเสธ แนะ ชุมชนให้ไปแจ้งความ
ธนชัย จิตนาวณิชย์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ชี้แจงว่า กรณีการเข้าไปตรวจตราในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ป่าม้ำ เป็นคำสั่งจากอธิบดีกรมป่าไม้ให้ตรวจสอบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าตามโครงการจัดทำข้อมูลสภาพพื้นที่ป่าปี 2566 สืบเนื่องจากปี 2565-2566 จำนวนป่าไม้ในประเทศไทยลดลงถึงสามแสนกว่าไร่ ทางสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ สังกัดกรมป่าไม้ จึงได้ทำความร่วมมือกับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกาการเปลี่ยนแปลงจากดาวเทียม หากเดิมเป็นพื้นที่ป่า ดาวเทียมจะจับจุดสัญญาณได้เป็นสีเขียว หากมีการแผ้วถาง จุดสัญญาณจะเป็นสีขาว ซึ่งข้อมูลดาวเทียมจังหวัดเชียงราย พบจุดพิกัดสีขาวถึง 1,800 จุด จึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบในระดับพื้นที่
การเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป็นไปตามการอนุญาตภายใต้มาตรา 19 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกรณีชุมชนห้วยหินลาดใน ทางหน่วยงานมีความเช้าใจในวิถีเกษตรแบบไร่หมุนเวียนของชุมชนเป็นอย่างดี ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีข้อขัดแย้งในการทำงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัดเข้าไปกระทำพฤติกรรมดังกล่าวในชุมชน ทางส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าได้รับรายงานข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่ในสังกัดเช่นเดียวกัน แต่จากการซักถามเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำ จึงเห็นว่าทางชุมชนอาจต้องไปแจ้งความเพื่อให้เกิดการสอบสวนจนได้ข้อยุติว่าใครคือผู้กระทำผิดจริง
“ผมได้รับรายงานข่าวมา เขา (เจ้าหน้าที่) ยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า เขาไม่ได้ทำ เพราะฉะนั้นชุมชนอาจต้องไปพึ่งศาล ไปแจ้งความเพื่อหาคนกระทำผิดมาลงโทษ หากเป็นเจ้าหน้าที่ทำผิดจริงเขาก็จะโดนลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา ขอยืนยันว่าผมไม่ได้ปกป้อง และไม่มีเจ้านายคนไหนบอกให้เรากระทำเยี่ยงนี้” ธนชัยกล่าว
‘ชุมชน’ หวั่น ไร่หมุนเวียนไม่มั่นคง ‘พีมูฟ’ ย้ำ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
นิราภร จะพอ ตัวแทนชุมชนห้วยหินลาดใน ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ที่ทางชุมชนห้วยหินลาดในและชุมชนใกล้เคียงต้องการเรียกร้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่โดยไม่แจ้งทางผู้ใหญ่บ้านและชุมชน หนำซ้ำยังทำลายข้าวของในพื้นที่ทำกินของชุมชน และต้องการให้มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน ซึ่งต้องเป็นการตรวจสอบที่มีสัดส่วนชองชุมชน ท้องที่ท้องถิ่น และหน่วยงานอย่างเท่า ๆ กัน ไม่ใช่เป็นการตรวจสอบกันเองภายในหน่วยงาน
“การกระทำแบบนี้ไม่ต่างจากโจร ไม่ต่างจากนักเลง เป็นการทำงานที่ไม่มีหลักการ เราไม่อาจเรียกได้ว่านี่คือการทำงานของเจ้าหน้าที่ เราอยากให้หน่วยงานให้เหตุผล ชี้แจง ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด” นิราภรกล่าว
ถนัด จะสุ ตัวแทนชุมชนห้วยหินลาดนอก กล่าวถึงความกังวลใจในการทำกินในพื้นที่หลังจากนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่ทำกินเช่นนี้ และยังไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงอาจทำให้ชาวบ้านสงสัยและกังวลใจว่า หลังจากนี้หากชาวบ้านจะเข้าไปในไร่หรือพื้นที่ทำกินได้เช่นเดิมหรือไม่ ถ้ายังทำกินอยู่จะเกิดการบุกรุกและคุกคามเช่นนี้กับตนหรือไม่ จึงอยากให้ทางหน่วยงานชี้แจงและยืนยันว่าจะยังคงสามารถทำกินในพื้นที่ได้ดังเดิม
ด้านธนชัย ยืนยันว่าทางชุมชนสามารถดำเนินการทำกินได้ตามปกติวิถี เพราะที่ผ่านมาทางหน่วยงานก็ไม่ได้กล่าวหาว่าทางชุมชนบุกรุก ส่วนการเข้าไปตรวจตราสภาพป่าในพื้นที่เป็นคนละส่วนกับเรื่องการบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่ม หลังจากนี้เมื่อมีแผนจะเข้าไปตรวจตราในพื้นที่จะประสานมายังผู้ใหญ่บ้านและชุมชนเพื่อแจ้งให้ทราบเสียก่อน ยืนยันว่าเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะยังระบุตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ก็ตาม
วิศรุต ศรีจันทร์ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) กล่าวว่าแม้ทางส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าจะชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำการดังกล่าว แต่ในฐานะของหน่วยงานที่สังกัดก็ต้องตักเตือน หรือลงโทษทางวินัยให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเช่นนี้จากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการอีก เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านในชุมชนต่างยินดีให้ความร่วมมือกับทางหน่วยงาน เมื่อทางหน่วยงานต้องการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ทางชุมชนก็อำนวยความสะดวกโดยตลอด แต่กลับพบการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ลุแก่อำนาจ ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับชุมชนอื่น ๆ อีก
จรัสศรี จันทร์อ้าย สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ กล่าวย้ำถึงข้อเรียกร้องของทางชุมชนในครั้งนี้คือ ทางหน่วยงานต้องเร่งการจัดประชุมในชุมชนเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยต้องมีส่วนราชการในท้องที่ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงชาวบ้านห้วยหินลาดในเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ได้ผลการตรวจสอบและให้เกิดมาตรการป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และให้แต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนภายใน 7 วัน โดยให้มีสัดส่วนของชุมชนห้วยหินลาดในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในสัดส่วนที่เท่ากัน และต้องหามาตรการเยียวยาผลกระทบของชาวบ้านในพื้นที่ไร่หมุนเวียนที่ถูกทำลายทรัพย์สิน รวมถึงเยียวยาผลกระทบต่อความมั่นคงทางจิตใจของชาวบ้าน และยืนยันว่าชาวบ้านจะยังสามารถทำกินอยู่ในพื้นที่ไร่หมุนเวียนทุกแปลงได้โดยเร่งด่วน
เวลาประมาณ 17.00 น. หลังการชี้แจงเสร็จสิ้น ทางตัวแทนชุมชนกล่าวว่า พึงพอใจโดยรวมในระดับหนึ่ง แต่ในเรื่องความรับผิดชอบของทางหน่วยงาน ยังเห็นว่ามีการปัดความรับผิดชอบ และพยายามเสนอให้ทางชุมชนดำเนินคดีความเพื่อให้เกิดการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยกระบวนการยุติธรรมโดยตัวชุมชนเอง อย่างไรก็ตาม ทางชุมชนเห็นว่าการที่หน่วยงานขอโทษและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คล้ายกับว่าทางหน่วยงานยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้ดำเนินการดังกล่าวจริง ซึ่งหลังจากนั้นทางชุมชนจะเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อไป