“เปลี่ยนรัฐบาลเป็นประชาธิปไตยก็ไม่ต่างจากรัฐบาลเผด็จการ” 3 นักกิจกรรมเชียงใหม่รับทราบข้อกล่าวหา คดีร่วมกันดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญในกิจกรรมที่อ่างแก้ว มช. ปี 65 

9 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. 3 นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อกล่าวหา “ร่วมกันดูหมิ่นศาล” หลังจากถูกตัวแทนของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความกล่าวหา เหตุจากการจัดกิจกรรมแฟลชม๊อบเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดี 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริเวณ อ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดย 3 นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ศิวัญชลี วิธญเสรีวัฒน์ (รามิล), คุณภัทร คะชะนา และ พึ่งบุญ ใจเย็น ทยอยได้รับหมายเรียก ที่ออกโดย พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ไปข้อกล่าวหา “ร่วมกันดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198

ด้าน คุณภัทร คะชะนา เผยว่า ตนรู้สึกเหนื่อยกับการถูกดำเนินคดี เนื่องจากชีวิตเหมือนมีภาระเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่การแสดงออกทางการเมืองควรจะเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถแสดงออกได้อย่างเสรีภาพ และยังสะท้อนถึงการที่รัฐไม่ได้มีพื้นที่ในการแสดงออกถึงแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลเป็นประชาธิปไตยก็ยังไม่ต่างจากรัฐบาลที่มาจากเผด็จการ

ทั้งนี้นักกิจกรรมทั้ง 3 คน ได้ปฎิเสธข้อกล่าวหา และมีการปล่อยตัวทั้ง 3 คนในเวลา 13.00 น. โดยจะมีการนัดหมายในวันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการ จังหวัดเชียงใหม่

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง