เชียงใหม่อากาศไม่ได้แย่ที่สุดในภาคเหนือ ยังมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่ถูกสื่อลืม
อาจจะเปรียบได้ว่า “เชียงใหม่” นั้นก็คือ “กรุงเทพฯ” ของภาคเหนือ ที่มักจะถูกโฟกัสมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในหลาย ๆ ประเด็น รวมถึง “ประเด็นมลพิษทางอากาศ” ด้วยเช่นกัน
ฤดูกาล PM2.5 ในภาคเหนือมาถึงทีไร เรามักจะได้ยินพาดหัวข่าวที่ว่า “หมอกควัน PM2.5 เชียงใหม่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก หรือ สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ” ซึ่งพาดหัวข่าวทำนองนี้อาจไม่เป็นความจริง
เพราะว่าแหล่งข้อมูลที่สื่อไทยมักนำมาอ้างอิงในการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับปัญหาปัญหาหมอกควัน PM2.5 คือข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน IQAir ซึ่งการนำเสนอข่าวแบบนี้เป็นเพียงการดึงข้อมูล ณ ช่วงเวลาหนึ่งจากเมืองหลัก ๆ ในแต่ละประเทศมานำเสนอ (ไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ประเทศนั้น ๆ ทั้งหมด)
โดยข้อมูลจาก “รายงานคุณภาพอากาศโลกปี 2022 ของ IQAir” ระบุว่าเก็บข้อมูลสถานที่ 7,323 แห่งใน 131 ประเทศ จากสถานีวัดประมาณ 30,000 แห่ง โดยข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแต่ละแห่งและเซนเซอร์แต่ละตัวถูกนำไปจัดเป็นกลุ่ม “การตั้งถิ่นฐาน” ซึ่งแสดงแทนเมือง เขตชุมชน หมู่บ้าน เทศมณฑล และเทศบาลตามการกระจายตัวของประชากรและเขตการปกครองในพื้นที่ “การตั้งถิ่นฐาน”
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลในปี 2562 พบว่า IQAir มีการเก็บข้อมูลเพียง 68 พื้นที่ในประเทศไทย (ในระดับจังหวัดและอำเภอ) ซึ่งใน 68 พื้นที่นี้มีเพียง 42 พื้นที่เท่านั้นที่เก็บข้อมูลครบทั้ง 12 เดือน (ม.ค.-ธ.ค.) และใน 68 พื้นที่นี้ก็ยังไม่ครอบคลุมทุกจังหวัดทุกอำเภอในประเทศไทย บางจังหวัดมีแค่ข้อมูลจังหวัด เช่น กรุงเทพ นครราชสีมา เป็นต้น และหลายจังหวัดที่มีข้อมูลในระดับอำเภอ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการเก็บข้อมูลใน จ.เชียงใหม่มากที่สุด ส่วนข้อมูลจากเว็บ IQAir ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ระบุไว้เพียงว่าใช้สถานีตรวจวัดในไทย 699 แห่ง
หากลองใช้ข้อมูลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ IQAir (ที่สื่อต่าง ๆ ชอบใช้เพราะมันสะดวกดี) ข้อเท็จจริงที่ปรากฎคือ “เชียงใหม่ไม่ได้อากาศแย่ที่สุดในภาคเหนือ” อย่างข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษตั้งแต่ปี 2556 ที่เริ่มมีการเก็บข้อมูล PM2.5 และค่อย ๆ กระจายเครื่องวัดออกไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือ ไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่ในจังหวัดเชียงใหม่เหมือนในช่วงแรก พบว่าหลายปีให้หลัง ตัวเลขค่า PM2.5 สูงสุด และจำนวนวันที่ค่า PM2.5 เกินวันมาตรฐานของพื้นที่อื่นในภาคเหนือมีความรุนแรงมากกว่าจังหวัดเชียงใหม่ ตัวอย่างเช่น
– ในปี 2562 ช่วงวิกฤตหมอกควันในเดือนมีนาคม กรมควบคุมมลพิษระบุถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ชี้ว่าอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วิกฤตที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ
– ในปี 2563 ช่วงวิกฤตหมอกควันในเดือนมีนาคม มีรายงานข่าวว่าพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุดในประเทศด้วยเช่นกัน
– ในปี 2564 ช่วงวิกฤตหมอกควันในเดือนมีนาคม กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนใหญ่เกินค่ามาตรฐาน โดยค่ามลพิษสูงสุดตรวจวัดได้ที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
– ในปี 2566 ช่วงที่ภาคเหนือของไทยเผชิญกับวิกฤตฝุ่น PM2.5 ปลายเดือนมีนาคม 2566 นั้น ก็พบว่าพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วิกฤตที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน สำหรับ 9 พื้นที่ที่วิกฤตสุดอยู่ในจังหวัดเชียงราย 3 พื้นที่ แม่ฮ่องสอน 3 พื้นที่ พะเยา น่านและเชียงใหม่อีกจังหวัดละ 1 พื้นที่
แล้วพื้นที่อื่น ๆ เป็นยังไง มาลองตรวจสอบมลพิษทางอากาศในท้องถิ่นด้วยตนเองกันเถอะ
แม้ว่าจะยังไม่มีสื่อไหนให้ความสำคัญกับมลพิษทางอากาศได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ด้วยขีดจำกัดด้านการเสนอข่าวสาร ทำให้พื้นที่เล็ก ๆ แต่มีความเข้มข้นด้วยมลพิษทางอากาศตกหล่นหายไปจากหน้าสื่อ
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเชื่อว่าท้ายสุดการโทษสื่อ โทษนั่นโทษนี่ แล้วมัวแต่ฟูมฟาย ก็อาจไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
ทั้งนี้เราก็พอที่จะมีเครื่องมือในการตรวจวัดสถานการณ์มลพิษที่ครอบคลุมท้องถิ่นของเราอยู่บ้าง เช่น เว็บไซต์ Air4Thai และ เว็บไซต์ CMU CCDC เป็นต้น เราอาจใช้เครื่องมือเหล่านั้นช่วยในการบอกเล่าปัญหานี้ในพื้นที่ที่เราอยู่อาศัย ผ่านสื่อท้องถิ่น (อย่าง Lanner) หรือแม้แต่โซเชียลมีเดียของเราเอง ให้มันเป็น “ประเด็นในท้องถิ่นของเรา” ขึ้นมาเอง โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศวิกฤต ก็จะสามารถสร้างความตระหนักรู้ปัญหานี้ขึ้นมาได้ในพื้นที่
บทความชิ้นนี้เขียนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 โดยผู้เขียนลองตรวจสอบสถานการณ์มลพิษทางอากาศในจังหวัดพะเยา ไว้ดังนี้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir www.iqair.com (ณ เวลา 19.00 น.) พบว่าจังหวัดพะเยามีดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 124 (มีผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือร่างกายอ่อนแอ) ความเข้มข้น PM2.5 อยู่ที่ 44.8µg/m³ (ความเข้มข้นเป็น 9 เท่าของค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลก)
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Air4Thai http://air4thai.pcd.go.th สถานีตรวจวัดที่สนามกีฬาจังหวัดพะเยา ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา (ณ 21.00 น.) ความเข้มข้น PM2.5 อยู่ที่ 50.78 µg/m³ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
ส่วนข้อมูลจากเว็บไซต์ CMU CCDC www.cmuccdc.org (ณ เวลา 19.00 น.) แสดงค่าความเข้มข้น PM2.5 ไว้ 9 จุดในจังหวัดพะเยาดังนี้
จุดตรวจวัด | ความเข้มข้น PM2.5 (µg/m³) |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.พะเยา ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา | 36 |
หน่วยป้องกันรักษาป่าที่พย.2 นาปรัง อ.ปง จ.พะเยา | 42 |
อบต.บ้านมาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา (กอ.รมน. พะเยา) | 43 |
รพ.พะเยา ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา | 48 |
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา | 49 |
รพ.จุน ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา | 55 |
สสอ. แม่ใจ จ. พะเยา | 60 |
โรงพยาบาลภูกามยาว ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว จ.พะเยา | 62 |
รพ.ปง ต.นาปรัง อ.ปง จ.พะเยา | 65 |
แล้วท้องถิ่นที่คุณอยู่ล่ะ สถานการณ์มลพิษทางอากาศในฤดูกาล PM2.5 ปี 2567 นี้เป็นอย่างไรกันบ้าง?
ข้อมูลประกอบการเขียน
- www.cmuccdc.org
- https://www.iqair.com
- http://air4thai.pcd.go.th
- รายงานคุณภาพอากาศโลกปี 2022 ของ IQAir
- หมอกควัน (3): มายาคติ PM2.5 ภาคเหนือกับการแก้ไขปัญหาแบบ ‘ลองผิดลองถูก’, ประชาไท
- ปี 2562 ‘สารภี-ปาย-หางดง’ เป็นอำเภอที่คุณภาพอากาศเฉลี่ยแย่สุด, TCIJ
- ฝุ่น PM2.5 : เชียงรายคุณภาพอากาศวิกฤต กรมควบคุมมลพิษคาดเลวร้ายต่อเนื่อง, BBC Thai
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เริ่มสนใจงานเขียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นทั้งนักเขียน นักเรียน นักดนตรี และนักรัก