เสียงจากเยาวชนชาติพันธุ์ปลดแอก No Dam Day

14 มีนาคม 2566


ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ได้มีการจัดกิจกรรม ‘พิธีสืบชะตาแม่น้ำสาละวิน’ เนื่องในวันหยุดเขื่อนโลกสากล ณ บ้านสบเมย ตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยกลุ่มชาวบ้านสบเมย ซึ่งเป็นพิธีที่จัดขึ้นทุกปี มีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยต่อนโยบายการสร้างเขื่อนจากรัฐที่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศและวิถีชีวิตของชาวบ้านสบเมย และมีการประกอบพิธีกรรมและอ่านแถลงการณ์


ช่วงแรกของกิจกรรมเป็นการทำพิธีกรรมสืบชะตาแม่น้ำสาละวิน ซึ่งเป็นพิธีกรรมขอขมาจากแม่น้ำที่ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีการขอให้แม่น้ำช่วยปกป้องพวกเขา โดยตามปกติพิธีกรรมได้ถูกดำเนินด้วยความเชื่อทั้ง 3 ได้แก่ ความเชื่อเดิม พุทธศาสนา และคริสต์ศาสนา แต่เนื่องจากเหตุไม่คาดฝัน จึงมีการดำเนินพิธีกรรมเพียงความเชื่อเดิม


ต่อมาได้มีการเสวนาจากเยาวชนคนรุ่นใหม่จากพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบทั้งจากการพัฒนาของรัฐที่กระทบต่อวิถีชีวิตและธรรมชาติ ในประเด็นเหมือง เขื่อน และที่ดิน 


และปิดท้ายกิจกรรมมีการแสดงสัญลักษณ์ถึงการไม่เอาเขื่อน พร้อมร้องเพลงสาละวิน และอ่านแถลงการณ์จาก เครือช่ายชาติพันธุ์ปลดแอก เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของคนรุ่นใหม่ มีเนื้อหาดังนี้

เรื่อง ทวงคืนสิทธิอันชอบธรรมในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติในนามกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง นี้คือเครือข่ายของพวกเราเครือข่ายชาติพันธุ์ปลดแอก ในนามประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองผู้ถูกกดขี่ ผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาและการแย่งยึดทรัพยากรจากรัฐและกลุ่มทุน ทั้งนโยบายและกฏหมายในคราบการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โครงการอุโมงค์ผันน้ำยวมและโครงการเหมืองแร่ที่อ้างการพัฒนาและเรียกร้องการเสียสละของพวกเราเพื่อประชาชนทั้งประเทศ

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่บรรพบุรุษของเราได้ก่อสร้าง แผ่วถางผืนดินพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหล่อเลี้ยงชีวิตและจิตวิญญาณของเรามารุ่นสู่รุ่นและเป็นเวลาหลายทศวรรษเช่นกันที่เราได้ร่วมกันดูแลรักษาผืนดิน ผืนป่า สายน้ำ ให้คงความอุดมสมบูรณ์ด้วยเหตุว่าทรัพยากรทั้งหลายล้วนมีความหมายต่อชีวิตของพวกเราและอนุชนรุ่นหลังไม่อาจปล่อยให้ถูกทำลายจนเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาได้

แม้เราจะพิสูจน์ตัวเองมาหลายชั่วอายุว่าสามารถดูแลรักษา รัฐไทยกลับกล่าวหาว่าพวกเราเป็นผู้ทำลายภายใต้คราบนโยบายด้านการอนุรักษ์ของรัฐบาลที่มองชีวิตของผู้คนแยกออกจากผืนป่าและรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่พวกพ้องตน รัฐไทยพยายามใช้ทุกวิถีทาง เพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ผลักให้พวกเราต้องกลายเป็น แพะรับบาป ในปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แล้วเร่งประกาศพื้นที่อนุรักษ์ภายใต้นโยบายทวงคืนผืนป่าและนโยบายของคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ซึ่งกระทบกับสิทธิในการทำกินและการใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรธรรมชาติของพวกเรา 

ในขณะที่รัฐไทยอ้างแผนการอนุรักษ์จัดการกับพวกเรานั้นรัฐกลับมุ่งอนุมัติโครงการน้อยใหญ่ที่มีกลุ่มทุนและรัฐราชการเป็นศูนย์กลางบนข้ออ้างประโยชน์สาธารณะและความเจริญจอมปลอมของประเทศท่ามกลางการสูญเสียฐานทรัพยากรส่วนรวมอย่างถาวร โดยตัดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงของประชาชนผู้รับผลกระทบที่แบกรับความสูญเสียซ้ำซากไม่ต่างจากยุคอดีต เกิดเป็นโครงการเหมืองแร่และอุโมงค์ผันน้ำที่นำทรัพยากรอันเปรียบเสมือนชีวิตของพวกเราไปแปลงเป็นสินค้าในโลกเสรีนิยมใหม่ถลุงทำลายจนเสื่อมสภาพ ย้อนแย้งกับความพยายามในการอนุรักษ์จอมปลอมแล้วอ้างกฏหมายจัดการกับพวกเรา

การกระทำเช่นนี้ของรัฐไทยที่รวมหัวกับกลุ่มทุนและชนชั้นนำ คือการกลบหน้าประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของพวกเราเป็นการกลบบ้านของพวกเราออกจากแผนที่ บ้านของพวกเราต่างร่วมกันสร้างด้วยความรัก อุดมไปด้วยวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อ และจิตวิญญาณที่หล่อเลี้ยงชีวิตของพวกเราให้เป็นคน รวมถึงรัฐไทยยังไม่ยอมรับในการมีตัวตนของพวกเราในนามกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง กลับกดขี่ เข่นฆ่าทำลายชีวิตและขับไล่พี่น้องของพวกเราทั่วประเทศออกจากพื้นที่ของตนเอง ไม่เคารพหลักสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองดังอารยประเทศทำกัน

ณ ที่นี้เราขอส่งเสียงของพวกเราในนามเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก ขอประกาศว่า เราจะยืนยันสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพชนที่ดูแลรักษา ผืนดิน ผืนป่า สายน้ำ สืบทอดต่อไปตราบนานเท่านานสู่ลุกหลานในอนาคต เราขอประกาศทวงคืนสิทธิอันชอบธรรมในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติในนามกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองผู้ก่อสร้าง มิใช่ผู้บุกรุกทำลายดังที่รัฐไทยและกลุ่มชนชั้นนำหลอกลวง เราขอยืนยันจะต่อสู้กับนโยบาย กฏหมายด้านที่ดินป่าไม้ตลอดจนโครงการพัฒนาที่ไม่เป็นธรรม อันจะเป็นการยืนยันต่อสู้กับโครงสร้างอำนาจที่กดขี่ และเราจะประกาศถึงสาธารณะชนว่าเราจะยังดำรงชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุลจะดูแลรักษาป่า ปกป้องต้นน้ำลำธารให้มีความอุดมสมบูรณ์เพราะที่นี่คือบ้านเกิดเมืองนอนของพ่อแม่ เป็นที่อยู่อาศัยของจิตวิญญาณของบรรพบุรุษของเรา เป็นชีวิตของเราที่จะต้องอยู่ดูแลใช้อย่างยั่งยืนและจะฝังร่างอันไร้วิญญาณของเราคืนแก่ธรรมชาติ เมื่อเวลานั้นมาถึง

แด่ผืนดิน ผืนป่า สายน้ำ และทุกชีวิตบนเส้นทางการต่อสู้ของพวกเรา 

ประกาศ ณ บ้านสบเมย

14 มีนาคม 2566

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง