“รู้สึกแย่มาก อยู่ดีๆ อยู่มานานก็มาไล่แบบดื้อๆ ให้เวลาแค่ 15 วันในการออกจากพื้นที่ เราก็ไม่มีที่จะไป ความเจริญทำให้เราอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เราอยู่แล้วอาจจะติดขัดเขารึป่าว เพราะอาจจะมีโรงแรมอะไรมาสร้าง เราอยู่มา 10 กว่าปีแล้ว พ่อแม่เราก็อยู่มา 40-50 ปีแล้ว”
20 กันยายน 2566 เวลา 10.30 น. ชาวบ้านชุมชนลอยเคราะห์กว่า 10 หลังคาเรือนเข้าร้องเรียนศูนย์บำรุงธรรม หลังจากชาวบ้านได้รับหนังสือแจ้งการไม่ต่อสัญญาเช่า (3 ปี) ตามเดิมซึ่งสัญญาจะหมดภายในวันที่ 30 กันยายน 2566 จากทางเทศบาลนครเชียงใหม่ อ้างว่าจะใช้พื้นที่เพื่อพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการ ซึ่งทางเทศบาลนครเชียงใหม่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะนำพื้นที่นั้นไปดำเนินการต่ออย่างไร พร้อมทั้งให้ขนย้ายออกไปภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2566
โดยพื้นที่ที่ชาวบ้านลอยเคราะห์ไม่ได้รับการต่อสัญญาจากเทศบาลนครเชียงใหม่คือบริเวณด้านหน้าติดกับถนนใหญ่เส้นฝั่งถนน ศรีดอนไชย ชาวบ้านได้ให้เหตุผลที่ยังไม่พร้อมในการย้ายออกทันทีเนื่องจาก มีระยะเวลาในการเตรียมการขนย้ายน้อยมาก รวมไปถึงไม่มีที่อยู่อาศัยและไม่มีที่ไปต่อ และยังใช้ที่บริเวณนั้นในการทำมาค้าขาย
ชาวบ้านชุมชนลอยเคราะห์มีข้อเสนอเรียกร้องให้ต่อสัญญา 3 ปีตามเดิม เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมการในการหาที่อยู่ใหม่และขยับขยายต่อไป
โดยระหว่างการร้องเรียนมียืนถือป้ายเรียกร้อง “หรือจะเอื้อประโยชน์นายทุน?” “ไม่รู้ไปอยู่ไหน ยิ่งกว่าว้าวุ่น ไล่เราเอื้อให้ใคร?” “คนจนมีสิทธิไหมคะ อยู่มาตั้งแต่รุ่นทวดแล้วค่ะ ขอความยุติธรรม”
ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องและจะจัดทำหนังสือเพื่อนำไปแจ้งยังเทศบาลนครเชียงใหม่ ในการขอผ่อนปรน และแจ้งให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น
หลังจากชาวบ้านชุมชนลอยเคราะห์ได้เข้าไปพูดคุยกับทางศูนย์ดำรงธรรม ได้เดินทางไปที่ศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวโดยด่วนระหว่างการดำเนินการไกล่เกลี่ย
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...