24 มกราคม 2566
วันนี้ (24 มกราคม 2566) ประชาชนพิษณุโลก จัดกิจกรรม ยืน-หยุด-ขัง บริเวณลานหอนาฬิกา จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่เวลา 17.00 – 18.12 น. เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวันและแบม ทั้งนี้ในเวลาเดียวกันประชาชนนครสวรรค์ ได้จัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” เป็นวันที่ 2 บริเวณ อุทยานสวรรค์ (ลานมังกร) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเเละปล่อยตัวตะวันเเละเเบม และนักโทษที่ถูกดำเนินคดีเเละคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมจากมาตรา 112 และในเวลา 19.57 น. ตะวันและแบมได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ แล้ว
ประชาชนพิษณุโลกจัดกิจกรรม ยืน-หยุด-ขัง บริเวณ ลานหอนาฬิกา จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่เวลา 17.00-18.12 น. มีการไลฟ์สดบรรยากาศกิจกรรมผ่านทางเฟสบุ๊ค ปุณณเมธ อ้นอารี มีการพูดเพื่อสนับสนุนและยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้องของตะวันและแบม ดังนี้
1. ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออกเป็นอย่างแรกมาก่อนสิ่งอื่นใด ต้องเป็นอิสระ ปราศจากอำนาจนำ ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และผู้บริหารศาลต้องไม่แทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี
2. ยุติการดำเนินความกับประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม และการแสดงออกทางการเมือง
3. พรรคการเมืองทุก ๆ พรรคต้องเสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยการยกเลิกมาตรา 112 และ 116
ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการอ่านบทกวี ถึงมหาตุลาการ ของ อานนท์ นำภา
คือตราชู ผู้ชี้ เสรีสิทธิ
คือศาลสถิต ยุติธรรม นำสมัย
คือหลัก ประกัน ประชาธิปไตย
มิใช่ อภิชน คนชั้นฟ้า !
ครุยที่สวม นั้นมา จากภาษี
รถที่ขี่ เงินใคร ให้หรูหรา
ข้าวที่กิน ดินที่ย่ำ บ้านงามตา
ล้วนแต่เงิน ของมหา ประชาชน
มิได้ อวตาร มาโปรดสัตว์
แต่เป็น “ลูกจ้างรัฐ” ตั้งแต่ต้น
ให้อำนาจ แล้วอย่าหลง ทนงตน
ว่าเป็นคน เหนือคน ชี้เป็น-ตาย
เสาหลัก ต้องเป็นหลัก อันศักดิ์สิทธิ์
ใช่ต้องลม เพียงนิด ก็ล้มหงาย
ยิ่งเสาสูง ใจต้องสูง เด่นท้าท้าย
ใช่ใจง่าย เห็นเงิน แล้วเออออ !
ต้องเปิด โลกทัศน์ อย่างชัดเจน
ใช่ซ่อนเร้น อ่านตำรา แต่ในหอ
ออกบัลลังค์ นั่งเพลิน คำเยินยอ
เลือกเหล่ากอ มากอง ห้องทำงาน
ตุลาการ คือหนึ่ง อธิปไตย
อันเป็นของ คนไทย ไพร่-ชาวบ้าน
มิใช่ของ ใครผู้หนึ่ง ซึ่งดักดาน
แต่เป็น “ตุลาการ” ประชาชน
ฉะนั้นพึง สำนึก มโนทัศน์
ใช่ด้านดัด มืดดับ ด้วยสับสน
เปื้อนราคิน กินสินบาท คาดสินบน
แล้วแบ่งคน แบ่งชั้น บัญชาชี้
เถิด”ตุลาการ” จงคิด อย่างอิสระ
รับภาระ อันหนักหนา ทำหน้าที่
หากรับใช้ ใบสั่ง ดั่งกาลี
ตุลาการ เช่นนี้ อย่ามีเลย !
ทั้งนี้จังหวัดนครสวรรค์มีประชาชนจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” บริเวณ อุทยานสวรรค์ (ลานมังกร) ตั้งแต่ 17.00-18.12 น. เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเเละปล่อยตัวตะวันเเละเเบม และนักโทษที่ถูกดำเนินคดีเเละคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมจากมาตรา 112 โดยวันนี้เป็นวันที่ 2 ในการจัดกิจกรรม
มีไลฟ์สดบรรยากาศจากเพจ Krithiran Lersauritpakdee – กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี มีการทบทวนและแนะนำตะวันและแบมจากบทความ RECAP: เกิดอะไรขึ้นกับ “ตะวัน-แบม” ?? จาก iLaw และกล่าวว่าจะจัดกิจกรรม“ยืน หยุด ขัง” ทุกวันจนกว่าศาลให้ความเป็นธรรมให้กับตะวันและแบม รวมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดี มาตรา 112 ที่ถูกกักขังทั้งที่ยังไม่ต้องคำพิพากษา ออกมาสู้คดีอย่างเป็นธรรม
อ่านบทความ RECAP: เกิดอะไรขึ้นกับ “ตะวัน-แบม” ?? https://www.facebook.com/iLawClub/posts/pfbid02HVzDHRWhjrQSLNBdF54rnsUm6Jif64BwG9sbgdnDxnG8HPvBpCwMsTWM2NGZBsAil
ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ในวันที่ 24 ม.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยมตะวันและแบม ตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. โดยในช่วงแรกมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายประกันและผู้กำกับดูแลของตะวัน เข้าเยี่ยมด้วยพร้อมกัน
จากการสอบถามอาการได้ความว่า ทั้งคู่มีอาการหน้าแดง รู้สึกตัวร้อน และทรมานจากความรู้สึกไม่สบายตัว สืบเนื่องมาจากสาเหตุใดไม่ทราบ โดยทั้งสองคนได้พยายามล้างหน้าและอาบน้ำ แต่ไม่สามารถบรรเทาอาการทรมานได้ทั้งหมด จึงไม่สามารถนอนหลับได้ตลอดคืนและหลับได้ระยะๆ มีความรู้สึกอยากอาเจียนอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีสิ่งใดออกมาจากร่างกายอีก ทั้งยังเวียนหัวตลอดเวลา พะอืดพะอืม เรอ และรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติอยู่ตลอดเวลา โดยตลอดการเข้าพบกับทนายความ ทั้งคู่มีอาการจะอาเจียนตลอดเวลา แต่ไม่มีสิ่งใดออกมาจากร่างกาย
ในเวลาเช้าของวันนี้ ก่อนที่จะมีการเข้าเยี่ยม ตะวันและแบมแจ้งว่าได้มีบุคคลที่แจ้งว่าตนเป็นผู้อำนวยการ นำบันทึกข้อความมาเพื่อให้ทั้งคู่มอบความยินยอมที่จะนำพาตนไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น โดยบุคคลดังกล่าวได้พูดคุยกับทั้งคู่เป็นอย่างดี และมีเจ้าหน้าที่แจ้งประกอบว่าให้เห็นใจพวกตนที่ต้องเฝ้าตะวันและแบมด้วย ตะวันและแบมจึงเกิดความเกรงใจและให้ความยินยอมด้วยการเขียนบันทึกข้อความดังกล่าว ซึ่งไม่มีการระบุว่าเป็นโรงพยาบาลแห่งใด ต่อมาเมื่อทราบว่าทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์แจ้งว่าจะส่งทั้งคู่ไปโรงพยาบาลตำรวจ ตะวันและแบมจึงได้ทำการแจ้งว่าขอเดินทางไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพราะมั่นใจว่าโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ทั้งคู่ยังยืนว่าจะอดน้ำและอาหารต่อไป การเดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หากทางแพทย์ต้องการประสงค์จะดำเนินการไปด้วยการใด จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและความยินยอมของตะวันและแบมเท่านั้น
ทนายความได้แจ้งความประสงค์ของตะวันและแบมต่อโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นหนังสือ พร้อมทั้งให้ทั้งคู่แจ้งความจำนงถึงความต้องการที่จะเดินทางไปโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
ในวันนี้ ทั้งคู่ได้แจ้งความประสงค์ฝากข้อความถึงพ่อกับแม่ ซึ่งทนายความได้แจ้งแก่แบมว่าพ่อของแบมได้โทรมาหา และฝากข้อความมาว่า “พ่ออยู่ข้างแบมนะ” ซึ่งทำให้แบมร้องไห้ออกมา พร้อมฝากข้อความว่า ในวันที่ตนเดินทางออกจากบ้านมานั้น พ่อได้ตะโกนบอกแบมว่า “ต้องกลับมาหาพ่อให้ได้” และแบมได้สัญญาไว้แล้วว่าจะกลับไป
ด้านตะวัน แจ้งความประสงค์ให้ฝากข้อความถึงพ่อกับแม่ของตนว่า “หนูรู้ว่าพ่อแม่เข้มแข็งมาก หนูไม่ยอมแพ้หรอก หนูยังสู้อยู่นะ อยากให้พ่อแม่รู้ว่าหนูเองก็ยังสู้อยู่ทุกวินาที พ่อแม่ก็รู้ว่าหนูไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่ากับเรื่องอะไร เรื่องนี้หนูก็จะไม่ยอมแพ้มันอีกเช่นกัน” พร้อมทั้งร้องไห้เช่นกัน
อนึ่ง ทั้งคู่ได้รับทราบว่าหากไม่มีการส่งตัวทั้งสองไปยังโรงพยาบาลแห่งอื่น ทั้งสองเข้าใจว่าจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ยังคงยืนยันเช่นเดิม
โดยในขณะนี้ ตะวันและแบมถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแล้ว ในเวลา 19.57 น.
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...