24 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 “ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์” ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ออกโรงอภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าเป็นผู้นำที่ขาดความรู้ ความสามารถ และไม่มีภาวะผู้นำในการจัดการปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่กำลังซ้ำเติมชีวิตประชาชนทั่วประเทศ
“ปี 2567 ไม่ใช่แค่ปีแห่งภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่วิบัติที่สุดคือการที่ประเทศไทยมีนายกฯ ชื่อแพทองธาร” – ภัทรพงษ์กล่าว
โดยภัทรพงษ์ได้จำแนกว่า นายกฯ แพทองธาร เป็นภัยพิบัติอย่างไร แบ่งได้ดังนี้
1.ข้อมูลคลาดเคลื่อน-คำสั่งไม่จริงใจ
แม้แพทองธารจะเคยบอกว่า “ทำการบ้านฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง” แต่ในความจริง ภัทรพงษ์ชี้ว่า
– พื้นที่เผาไหม้เพิ่มขึ้นกว่า 8 ล้านไร่จากปีก่อน
– ค่าฝุ่นใน กทม. ช่วง ม.ค.–ก.พ. 2568 พุ่งสูงกว่าปีก่อนถึง 20%
– ไม่มีการตรวจสอบจริงจังแม้อ้างว่าลดการเผาอ้อยได้
2.มาตรการล่าช้า-โอกาสหลุดมือ
– แผนรับมือฝุ่นถูกเสนอในเดือน ก.ย. 2567 แต่นายกฯ เพิ่งมีคำสั่งแรกในปลาย ต.ค. และซ้ำอีกใน ธ.ค.
– ประกาศนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2568 ไม่มีเงื่อนไขห้ามข้าวโพดจากการเผา
– รัฐบาลพลาดโอกาสสำคัญในการออกมาตรการสนับสนุนเกษตรกรไม่ให้เผา และควบคุมห่วงโซ่อุปทานนายทุน
ภัทรพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อค่าฝุ่นในกรุงเทพฯ พุ่งสูงที่สุด นายกฯ อยู่ต่างประเทศ และออกคำสั่งทางออนไลน์ที่ไม่มีอะไรใหม่ นอกจาก “มุ้งกันฝุ่น” ซึ่งขอของบไปแล้วแต่สุดท้ายไม่ได้รับอนุมัติ
– งบดับไฟป่าถูกตัดจาก 2,400 ล้าน เหลือเพียง 620 ล้าน
– งบท้องถิ่นถูกจำกัดการใช้ ซื้ออุปกรณ์ทันสมัยไม่ได้
– เจ้าหน้าที่ภาคสนามต้องเสี่ยงชีวิตเพราะไร้เครื่องมือ
3.ไร้บทบาทในเวทีอาเซียน – ฝุ่นจากเพื่อนบ้านยังเข้าไทย
แม้นายกฯ บอกว่าปัญหาฝุ่นเป็น “วาระแห่งอาเซียน” แต่ในการประชุมสุดยอดอาเซียนและเวทีลุ่มน้ำโขง กลับไม่มีการพูดถึงเรื่องฝุ่นเลยแม้แต่ฉบับเดียวในแถลงการณ์ร่วม
แม้ไทยจะปล่อยกู้ให้กัมพูชา 491.5 ล้านบาทไปสร้างถนน แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถใช้ประเด็นนี้ต่อรองให้ยุติการเผาได้ ข้าวโพดเผาจากประเทศเพื่อนบ้านยังไหลเข้าประเทศตามเดิม
4.ซ้อมยิงในพื้นที่เสี่ยง – นายกฯ คุมกองทัพไม่ได้
ภัทรพงษ์เปิดเผยอีกว่า วันที่ 13–14 ก.พ. 2568 กองทัพซ้อมยิงกระสุนจริงในพื้นที่ป่าสงวน จ.พะเยา ทำให้เกิดไฟป่าที่ลุกลามหนัก ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งเกิน 200 AQI
– ภาพถ่ายดาวเทียมยืนยัน จุดเริ่มต้นไฟมาจากพื้นที่ยิงปืน
– เหตุการณ์คล้ายกันยังเกิดใน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
“ชัดเจนพอหรือยัง? ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณแพทองธารถึงปล่อยให้เกิดไฟป่าจากฝุ่นพิษ จากการซ้อมรบของกองทัพ ลืมไปแล้วหรือว่า ตัวเองสั่งการให้กองทัพไปป้องกันไฟป่า PM2.5 แต่กองทัพเขาฟังคุณหรือไม่”
“เรื่องง่ายๆ แค่นี้ยังกลัว ยังเกรงใจกองทัพ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดเรื่องปฏิรูปกองทัพ ไม่ต้องไปพูดเรื่องเอาทหารมาอยู่ใต้ประชาชน แค่สั่งไม่ให้เกิดไฟป่า กองทัพยังไม่ฟังเลย ยังไม่เห็นหัวแพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำไป”
“ถ้านี่เป็นบ้านคุณแพทองธาร ลูกๆ วิ่งเล่นอยู่ต้องเจอแบบนี้ คุณแพทองธารในฐานะแม่ของลูก จะรู้สึกยังไง?”
ภัทรพงษ์สรุปว่า การที่คำสั่งนายกฯ ไม่มีใครทำตาม สะท้อนว่าไม่มีใครเห็นคุณค่าของผู้นำรายนี้ ไม่ใช่แค่หน่วยงานเดียว แต่ทุกระดับ
“ฝุ่นพิษอาจไม่หมดใน 1–2 ปี แต่ถ้ามีผู้นำที่ตั้งใจจริง เราจะไม่เป็นแบบนี้”
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...