ว่าด้วยโอกาสที่ได้รับและละครเปลี่ยนชีวิตของเด็ก ๆ ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่
เรื่อง : ภูวิวัชร์ อินต๊ะวงค์
ภาพ : ปวีณ์กร สิมมา
หลายครั้งที่เราต่างรอใครสักคนหยิบยื่นโอกาสให้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เราต่างรอคอยและคาดหวังว่าจะได้มันมา แต่กับเด็ก ๆ หลายคนแล้ว แค่โอกาสสักครั้ง ก็มีค่ามากพอที่จะเปลี่ยนชีวิตที่เคยสับสนในย่างก้าวที่เดินพลาดผิดทางได้เดินต่อ สำหรับเด็ก ๆ ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่ โอกาสที่ได้รับคือละคร ละครที่ไม่ใช่แค่การนั่งดูเพื่อความบันเทิงเริงใจ แต่เป็นละครที่ค่อย ๆ ทำงานกับความคิด ความรู้สึก และกลั้นกรองออกมาในชื่อที่เรียบง่ายแต่ลึกลงไปในความรู้สึก
Part Time Theatre กลุ่มนักการละครที่เชื่อมั่นอย่างตรงไปตรงมาที่สุดว่าละครเปลี่ยนชีวิตได้ ใช้เวลา 2 ปีเต็มในการเข้าไปทำงานกับเด็ก ๆ ในศูนย์ฝึก ด้วยเครื่องมือละครที่ทุกคนมีอยู่ในมือและในใจ ถ่ายทอดออกมาเป็นละครสั้น 4 เรื่อง ที่เด็ก ๆ ทุกคนมีส่วนในการคิดค้น พัฒนาบทและออกแบบเองทุกกระบวนการ และจัดฉายเป็นสารคดีที่ใช้ชื่อ “โอกาสที่สอง” ที่บอกเล่าเรื่องราวของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนละครตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในศูนย์ฝึกจนกระทั่งได้เข้าร่วมโครงการและผลิตผลงานออกมา โดยจัดฉายวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ณ สวนอัญญา – เฮือนครูองุ่น มาลิก หอประวัติศาสตร์ประชาชนภาคเหนือ
ขึ้นชื่อว่าโอกาส แต่กว่าที่โอกาสจะเดินทางมาถึงล้วนเต็มไปด้วยคำถามและอคติที่กัดกินหัวใจให้สังคมนี้แล้งแห้ง ละครบทต่อไปนี้คือเรื่องจริงที่ต้องเปิดใจ ค่อยเป็นค่อยไปในการอ่าน และอย่ารีบตัดสินโดยทันที
ให้ละครคอยนำทาง
“ละครทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับทีมงานด้านวิธีการคิด เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น คิดว่ากระบวนการเเบบนี้ถ้าได้เริ่มกับเด็กเเละเยาวชน น่าจะทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีการพัฒนาตนเอง เห็นมุมมองใหม่ๆ มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต”
ปิงปอง-พลัฏฐ์ ศิริพัฒนกุลขจร หนึ่งในสมาชิกของ Part Time Theatre บอกกับเราก่อนที่จะอธิบายต่อถึงการเลือกที่จะทำงานกับเยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่ ว่าแม้กระบวนการละครจะเปลี่ยนชีวิตของคนทำละคร แต่กับเด็กที่ทีมงานไม่เคยรู้จักพวกเขามาก่อนนั้นถือเป็นเรื่องยาก รวมไปถึงการที่เด็กหลายคนเองก็ถูกแปะป้ายจากสังคม เคยก้าวพลาดมาแล้ว ยิ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายทีมงานอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความเชื่อที่ว่าละครอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่
“กว่าจะเข้าไปได้ต้องมีระเบียบเเละขั้นตอนเยอะมาก โชคดีที่เราได้รับทุนมาจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เลยทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้ เริ่มเเรกเราติดต่อไปทางศูนย์ฝึกก่อน พวกเรามีความตั้งใจอยากทำ น่าจะมีประโยชน์ อย่างน้อยทำให้เด็ก ๆ ได้เห็นถึงความสามารถของตนเองว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ใช้ระยะเวลาในการติดต่อนาน จนได้รับอนุญาตให้เข้า”
แม้จะได้เข้ามาแล้ว แต่ความยากต่อจากนั้นคือความรู้สึกลึก ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในความคิดของทีมงาน เพราะคิดไม่ออกว่าจะต้องเจอความรู้สึกแบบไหนบ้าง และทีมงานเองก็ได้ฟังเรื่องเล่าของน้อง ๆ ว่าทำไมถึงเลือกที่จะกระทำผิด เพื่อเข้าใจเหตุผล และสภาพแวดล้อมรอบตัวที่บีบบังคับทำให้เด็กไม่มีทางเลือก
“กลัว ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าภาพจำของเรากับคนที่อยู่ในสถานที่เเบบนี้เป็นผู้ที่กระทำความผิดมา เเต่เมื่อเราได้พูดคุยด้วยเขาก็คือเด็กทั่วไปที่เราเคยเจอในช่วงวัยเดียวกันนี่แหละ พอได้คุยได้ทำความรู้จักกันทำให้รู้สึกว่าเด็ก ๆ ก็แค่เด็กคนหนึ่งที่ครั้งหนึ่งเคยกระทำผิดก็เลยต้องเริ่มต้นใหม่”
อาตัน-อาตัน อาแว สมาชิกของ Part Time Theatre พูดถึงความรู้สึกแรกที่ได้พบกับเด็ก ๆ ก่อนที่เวลาจะค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นความเข้าใจ
ปิงปอง เสริมต่อว่าตอนแรกที่เข้าไปก็กลัว กลัวในความที่ไม่รู้ว่าจะเจอเด็กแบบไหนเเละเด็กเเต่ละคนเป็นยังไง แต่พอได้เข้าไปแล้วก็มีความกังวลว่าจะสื่อสารกันได้ไหม เพราะเด็ก ๆ หลายคนมาจากความต่างทางชาติพันธุ์ บางคนสื่อสารภาษาไทยลำบาก ช่วงแรกทุกคนไม่กล้าพูดกับทีมงานเลย ต้องคอยชวนคุยชวนถาม แต่ระยะเวลาก็ผ่อนคลายอุปสรรคที่คอยขวาง การทำกิจกรรมก็สนุกมากยิ่งขึ้น
“พอได้ทำกิจกรรมร่วมกันไปเรื่อย ๆ รู้สึกเลยว่าทุกคนน่ารักมาก ยิ่งเวลาอยู่ในศูนย์ฝึกไม่ได้มีกิจกรรมให้ทำมาก ไม่มีสื่อบันเทิงสักอย่าง พอมีกิจกรรมเข้าไป ทุกคนจึงตื่นเต้นมาก ทีมงานเองก็รู้สึกดีมาก”
เมื่อโอกาสกำลังเดินทาง
ระยะเวลาตั้งแต่ธันวาคม 2563 จนถึงธันวาคม 2565 ร่วม 2 ปีที่ Part Time Theatre ได้เข้าไปทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ แม้จะมีอุปสรรคคือการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ทำให้กระบวนการขาดช่วงเป็นระยะ จากที่เข้าไปทำกิจกรรมที่ศูนย์ฝึกได้ก็ต้องปรับไปเป็นออนไลน์ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทีมงานต้องมาคิดกระบวนการสอนใหม่ทั้งหมด เพราะทีมงานเองก็ไม่เคยสอนละครรูปแบบออนไลน์
ในเงื่อนไขและข้อจำกัดก็ยังคงมีแสงสว่างที่ค่อย ๆ เปล่งประกาย เพราะเด็ก ๆ เองก็อยากท้าทายอยากทำสิ่งใหม่ ๆ อย่างเต็มที่ แม้ว่าในศูนย์ฝึกมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ผลงานละครสั้นที่เด็ก ๆ เป็นคนคิดเขียนเรื่องตลอดจนแสดง ทั้งหมด 4 เรื่องก็กลั่นออกมา วินาทีนั้นทีมงานบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่า 2 ปีนี้ไม่สูญเปล่า จากช่วงแรกที่ต่างคนต่างไม่กล้าที่จะพูด จนพูดจากันอย่างเป็นธรรมชาติ
เส้นทางเดินความฝันแห่งรัก ละครสั้นที่บอกเล่าเรื่องของโจ เด็กที่มีความฝันอยากจะรวยขึ้นเพื่อที่จะได้ดูเเลยายที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งโจเริ่มต้นจากการรับของครีมมาขายทางออนไลน์แต่กลับถูกแม่ค้าหลอกขายครีมหมดอายุให้ ทำให้ลูกค้าไม่พอใจโจเเละขอเงินคืน ทางโจไม่มีเงินที่จะคืนลูกค้าได้จึงได้ไปต่อรองให้แม่ค้าที่ขายครีมให้เขาคืนเงินมาเเต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงเเละไม่คืนเงินให้โจ โจนั้นท้อมากเเต่ในเวลาที่โจท้อนั้นยายของเขาก็ได้เข้ามาให้กำลังใจเเละสอนโจเรื่องการดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้อง ทำให้โจมีแรงฮึดในการลุกขึ้นมาจากความผิดพลาดอีกครั้งและโชคชะตาก็เข้าข้างโจ เมื่อได้พบกลับเเพรวหลานของแม่ค้าที่ขายครีมให้โจ เเพรวเข้าไปต่อรองจนเเม่ค้ายอมคืนเงินให้โจหลังจากวันนั้นชีวิตโจได้เปลี่ยนไป เขาเริ่มมีธุรกิจของตนเองเเละได้ดูเเลยายตามที่เขาปรารถนามาตลอด
จอห์นเจ้านักซิ่ง เรื่องของจอห์นที่มีความต้องการเงินมากเนื่องจากมีความชอบมอเตอร์ไซค์เเละอยากเป็นนักเเข่ง แต่จอห์นก็เลือกทางลัดในการหาเงิน โดยการประกอบอาชีพผิดกฎหมายจนอยู่จับได้ระหว่างโดนจับมีเเม่ของเขาคอยให้กำลังใจเสมอ ในที่สุดวันจอห์นได้ปล่อยตัวก็มาถึงเมื่อจอห์นได้กลับมาถึงบ้านพบว่าแม่ของเขานั้นได้ซื้อมอเตอร์ไซค์มาให้เป็นของขวัญ จอห์นคิดได้เเละให้คำมั่นกับเเม่ ว่าจะเริ่มต้นใหม่เเละจะประกอบอาชีพสุจริตในการหาเงิน
เส้นทางเดิน เพื่อนรักกลุ่มหนึ่งที่มีความฝันในการทำให้ชีวิตของตนเองนั้นดีขึ้นกว่าเดิม เเต่ระหว่างเรียนนั้นมีเพื่อนภายในกลุ่มเลือกจะทำเรื่องผิดกฎหมายในการหาเงิน เพื่อนที่เหลือในกลุ่มได้พยายามเตือนกลุ่มเพื่อนที่ทำเรื่องผิดกฎหมายเเต่สิ่งที่ได้รับคือการถูกเมินจากเพื่อนๆ เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนกลุ่มนี้ถูกจับได้ทำให้เพื่อนกลุ่มนี้ไม่ได้เรียนพร้อมกันกับเพื่อนๆของเขา เมื่อถูกปล่อยตัวเพื่อนรักกลุ่มนี้ได้นัดกันมาพูดคุยสังสรรค์กันตามภาษาเพื่อน ถามไถ่เรื่องการทำตามความฝันของตนเองว่าทุกคนนั้นยังคงทำตามความฝันของเเต่ละคน ส่วนกลุ่มเพื่อนที่เคยทำความผิดก็มีความฝันในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
สติอันไร้เดียงสา ละครสั้นที่บอกเล่าเรื่องของตั้มที่ถูกชักชวนมาทำงานที่ผิดกฎหมายเเต่ตัวตั้มเองกลับไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำอยู่นั้นผิด จนกระทั่งเขาถูกจับได้โดยมีอยู่วันหนึ่งมีพ่อกับเเม่ของตั้มเข้ามาเยี่ยมมาพูดคุยเเละข้อคิดตั้มเรื่องการใช้ชีวิตทำให้เขาคิดได้เเละให้สัญญาว่าเมื่อออกมาจากคุกเเล้วจะประกอบอาชีพสุจริตทำเเละกลับมาดูแลครอบครัว
“ด้วยระยะเวลาทำให้เราเห็นการเติบโตของเด็ก ๆ แม้ว่าทีมงานไม่สามารถเข้าไปสอนได้อย่างต่อเนื่อง มีเด็กคนหนึ่งเมื่อทีมงานเข้าไปเด็กคนนี้ไม่สามารถอ่านเขียนภาษาไทยได้ เเต่พูดไทยได้ เมื่อจบโครงการเด็กคนนี้สามารถเขียนภาษาไทยได้ เวลาซ้อมละครเด็กคนนี้จะต้องให้เพื่อนพูดให้ฟังเเละใช้วิธีการจำ ซึ่งทีมงานเห็นความเปลี่ยนแปลงของเด็กคนนี้เเล้วรู้สึกดีใจที่ได้เห็นเด็กคนนี้เปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น เด็กบางคนตอนแรกคิดว่าจะมาเล่น ๆ เเต่พอรู้สึกว่าทีมงานนั้นจริงจังเเละกระบวนการมีความสนุก เด็ก ๆ จึงมีความสนุกเเละตั้งใจที่จะสร้างผลงาน”
ปิงปองเล่าให้ฟังด้วยท่าทีที่มีความสุข นี่เป็นความชุบชูใจที่เกิดขึ้น และจริงที่สุด ก่อนที่อาตันจะทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ
“เด็ก ๆ ข้างในก็คือเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันมีสิ่งที่อยากทำ แต่เเค่เคยกระทำความผิด ทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครทำถูกทุกอย่าง เราเชื่อว่าถ้าเด็กได้โอกาสที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เด็ก ๆ เหล่านี้อยากจะพัฒนาตัวเองอยากได้โอกาสจากสังคมอีกครั้ง”
ปากเสียงของโอกาสที่ 2
มาถึงตรงนี้แล้วถ้าไม่เปิดพื้นที่ให้เสียงของเด็ก ๆ ได้ปลดพันธนาการออกมาก็คงไม่ได้ สิ่งสำคัญในการชุบชีวิตของเด็กที่ก้าวพลาดไป คือการต่อสะพานเพื่อเชื่อมโยงถึงกันอย่างเข้าใจ
“หลังจากที่เรียนละครมา กล้าแสดงออกมากขึ้น ความขี้อายน้อยลง เมื่อก่อนตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อน เมื่อได้มาทำกระบวนการละครช่วยทำให้ใจเย็นลงมากขึ้น ใช้สติมากขึ้นคิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร ตื่นเต้นอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ได้แต่งบทละคร เรียนร้องเพลง พัฒนาบท สนุกมากเลย”
“ตั้งเเต่เเรกเลยนะไม่ได้อยากเข้าร่วมกระบวนการละครเลย เเต่ก็ถูกเชิญชวนให้มาเปิดประสบการณ์ ตั้งเเต่ได้พูดคุยกันครั้งแรก ก็มีกิจกรรมมาให้เล่นเพียบเลย สนุก มีความสุข ได้แบ่งปันรอยยิ้มกัน”
“ได้แบ่งปันความอบอุ่นร่วมกันเพราะนอกจากได้แสดงละคร เราก็ได้พูดคุยเปิดใจกันหลายเรื่อง เสมือนเป็นครอบครัวกันเลย”
แม้อาจจะไม่ได้ยินครบทุกเสียง แต่ก็หวังว่าเราทุกคนในสังคมนี้และประเทศนี้จะเปิดโอกาส แบ่งปันปรารถนาดี หยิบยื่นโอกาสที่ 2 ให้เด็ก ๆ ที่เคยพลาดพลั้งได้มีลมหายใจที่สดใสแข็งแรงงดงาม เป็นเรื่องจริงมากกว่าละครที่สุขสมหวังในไม่ช้านี้
สามารถรับชมละครสั้นทั้ง 4 เรื่องได้ตามนี้
เส้นทางเดินความฝันแห่งรัก
จอห์นเจ้านักซิ่ง
เส้นทางเดิน
สติอันไร้เดียงสา