ภาคเหนือจมบาดาล น้ำท่วมหลายจังหวัด ‘เชียงใหม่-ลำปาง-แพร่-สุโขทัย’ กระทบหลายพื้นที่ ประชาชนเดือดร้อนหนัก

ที่มา: กลุ่มงานจราจร ภ.วจ. เชียงใหม่

จากการตรวจสอบระดับน้ำแม่น้ำปิงจากศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคเหนือตอนบน พบว่า 26 ก.ย. 67 เวลา 13.00 ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเริ่มลดลงเหลือ 4.72  เมตร หลังจากขึ้นสูงสุดที่ 4.93 เมตร เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 02.00 น. อย่างไรก็ตาม หลายพื้นที่ในเชียงใหม่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่สูง อาทิ ถนนมหิดล บริเวณจุดกลับรถสะพานป่าแดด และหน้าหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นผิวการจราจรทั้งขาเข้า – ขาออก

ถนนเจริญเมือง น้ำท่วมถึงแยกทุ่งโฮเต็ลใต้ รถที่มาจากทุ่งโฮเต๊ลใต้มาทางสะพานนวรัฐไม่สามารถผ่านได้ / ปิดกั้นแยกทุ่งโฮเต็ลใต้

ถนนเจริญราษฎร์ จากสะพานนวรัฐผ่านทางสะพานนครพิงค์ตะวันออกไปถึงวัดศรีโขง น้ำท่วมพื้นผิวจราจร รถเล็กผ่านได้ยาก / จุดสะพาน รวมไปถึงข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่าม มีน้ำท่วมขัง

ถนนวังสิงห์คำ ไปทางสะพานป่าตันมีการปิดกั้นจราจรเนื่องจากมีน้ำท่วมสูง

กาดเมืองใหม่ เวลา 09.30 น. น้ำยังคงท่วมขังอยู่หลังจากระดับน้ำลดลง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ต้องยกสินค้าประเภทผักและผลไม้ขึ้นเหนือระดับน้ำ ร้านค้าหลายร้านไม่สามารถเปิดขายสินค้าได้

ซอยลาบต้นยาง มีน้ำท่วมขัง ไม่สามารถผ่านได้ และมีการผิดกั้นการจราจร

บริเวณถนนช้างคลาน-ถนนเจริญประเทศ โดยครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัยโซน 1 – 4 เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะย่าน​ไนท์บาซาร์ ซึ่งมีน้ำท่วมขังถึงระดับขา รถไม่สามารถสัญจรเข้าออกได้ร้านค้าหลายร้านปิดตัว ทำให้ไม่สามารถสัญจรเข้าออกได้ ร้านค้าหลายร้านต้องปิดตัวลง เนื่องจากน้ำท่วมขัง นักท่องเที่ยวที่พักในโรงแรมบริเวณดังกล่าวต้องเดินฝ่าน้ำออกมาอย่างยากลำบาก และตลอดแนวถนนช้างคลาน ซึ่งน้ำท่วมขังค่อนข้างลึก นอกจากนี้ น้ำยังขยายวงกว้างเข้าท่วมโซนอื่น ๆ เช่น เส้นทางเลียบทางรถไฟในพื้นที่สารภี ซึ่งทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ สถานการณ์นี้สร้างความยากลำบากให้กับผู้ที่ต้องการสัญจรในพื้นที่

ถนนเชียงใหม่ – ลำพูน หน้าค่ายกาวิละ มาทางไฟฟ้าบ้านเด่น ถึงริมปิง มีน้ำท่วมขัง ไม่สามารถผ่านได้ รวมถึงมีการผิดกั้นการจราจรที่สามแยกวัดเมืองกาย

ถนนบำรุงราษฎร์ มาทางสันป่าข่อย มีน้ำท่วมผิวการจราจรบางส่วน รถยังสามารถผ่านได้

กาดก้อม ยังมีน้ำท่วมพื้นผิวการจราจร รถไม่สามารถผ่านได้

สถานีวัดระดับน้ำ P.1 สะพานนวรัฐ ตรงข้ามโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน ระดับน้ำในแม่น้ำปิงได้เอ่อล้นข้ามฝั่งมาแล้ว แต่ยังไม่ท่วมสูงมากนัก

​คลองแม่ข่าที่มีการก่อสร้างใหม่ตั้งแต่ระแกงถึงประตูก้อม น้ำได้ท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกจากตัวบ้านได้ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำช่วยระบาย เนื่องจากถนนที่สร้างขึ้นใหม่ไม่ได้ออกแบบให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วงแหวนรอบ 2 (โกลบอลเฮ้าส์) รถไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมพื้นผิวการจราจร ขาออกจากแม่เหียะรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ / ขาเข้ายังใช้เส้นทางได้

ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์น้ำท่วมได้จากแผนที่น้ำท่วมได้ที่เพจเฟ๊ซบุ๊ก เชียงใหม่ ฉันจะดูแลเธอ หรือเว็บไซต์ https://bit.ly/cnxflood24 และเพื่อความปลอดภัย ทุกคนที่ไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่น้ำท่วม โดยตำรวจจราจรเชียงใหม่ ได้แนะนำการใช้เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม (26 ก.ย. 2567 เวลา 9.30 น.) หากจะต้องเข้าพื้นที่เขตเมืองเชียงใหม่ ให้ดูรายละเอียดตามสีเส้นทาง ได้แก่ เส้นสีเขียว มาจากถนนเชียงใหม่-ลำปาง เส้นสีแดง มาจากพื้นที่สันกำแพง เส้นสีน้ำเงิน มาจากพื้นที่แม่ริม และเส้นสีส้ม มาจากถนนคันคลองฝั่งที่มาจากหางดง

ที่มา: กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับรถฉุกเฉินรถพยาบาลให้ใช้แยกรินคำและแยกฟ้าธานีได้ หากมาจากถนนคันคลองให้ใช้แยกต้นพยอม และสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามายังพื้นที่คูเมืองสำหรับรถฉุกเฉินรถพยาบาลให้ใช้แยกรินคำและแยกฟ้าธานีได้ หากมาจากถนนคันคลองให้ใช้แยกต้นพยอม และสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามายังพื้นที่คูเมือง อาจเลี้ยวซ้ายบริเวณแยกต้นโพธิ์ เข้าถนนอัษฎาธร มาเข้าตรงแจ่งศรีภูมิเพื่อมาเข้าช้างม่อยเพื่อเข้ากาดหลวง

นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ประกาศเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังบริเวณแม่น้ำปิงในช่วงวันที่ 25 – 30 ก.ย. 67 เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงมีแนวโน้มล้นตลิ่ง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ ต.ช้างคลาน ป่าแดด หายยา ช้างม่อย วัดเกต ช้างเผือก หนองหอย ท่าศาลา ฟ้าฮ่าม ป่าตัน สันผีเสื้อ และหนองป่าครั่ง อ.เมือง ต.หนองผึ้ง และท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง โดยจะมีระดับน้ำสูงสุดในวันที่ 26 – 27 ก.ย. 67 ประมาณ 1.0 – 1.5 ม. จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้น เตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขา รวมทั้งแจ้งเตือนล่วงหน้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

น้ำแม่วังสูงขึ้น กระทบชุมชนริมน้ำเมืองลำปาง – 2 เขื่อนระบายน้ำ ท่วมเพิ่ม 2 อำเภอ

มติชน รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าน้ำท่วมในจังหวัดลำปาง ล่าสุด (26 ก.ย. 67) แม่น้ำวังที่ไหลพาดผ่านพื้นที่เขตตัวเมืองลำปางขณะนี้ได้สูงขึ้น และเริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครลำปาง โดยเฉพาะชุมชนเลียบแม่น้ำวัง ตั้งแต่ชุมชนท่านางลอย ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนริมแม่น้ำวัง เลียบถนนป่าไม้ ชุมชนปงสนุก ชุมชนเลียบถนนเจริญประเทศ ต.เวียงเหนือ อ.เมือง เขตเทศบาลนครลำปาง ซึ่งมีระดับน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 30 เซนติเมตร – เกือบ 2 เมตร ในบางพื้นที่ลุ่มต่ำ และบริเวณหัวสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี หลังวัดเกาะวาลุการาม ที่น้ำได้ท่วมบ้านเรือนสูง เนื่องจากอยู่ติดกับแม่น้ำ

ขณะดียวกัน น้ำจากแม่น้ำวังยังได้ไหลขึ้นตามท่อระบายน้ำและทำให้เกิดการท่วมขังบริเวณถนนทิพวรรณ (หลิ่งจันหมั่น) ซึ่งเป็นซอยในชุมชนกาดกองต้า (ถนนคนเดินกาดกองต้า) ระดับน้ำที่ท่วมขังอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร โดยที่กาดกองต้ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก มีเพียงบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำและถนนเลียบแม่น้ำเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ไหลเข้าท่วม

ทั้งนี้ ตามการรายงานล่าสุดจาก Thai PBS News เขื่อนกิ่วคอหมา อำเภอแจ้ห่ม ซึ่งมีน้ำอยู่ที่ 187 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคิดเป็น 110% ของความจุ ได้เพิ่มการปล่อยน้ำเกือบ 300 ลบ.ม. ต่อวินาที จากเดิม 263 ลบ.ม. ต่อวินาที ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในอำเภอแจ้ห่ม ขณะเดียวกัน เขื่อนกิ่วลม อำเภอเมือง ซึ่งมีความจุอยู่ที่ 92% มีน้ำประมาณ 98 ล้าน ลบ.ม. ก็ได้ปล่อยน้ำเพิ่มเป็น 300 ลบ.ม. ต่อวินาที ทำให้น้ำท่วมในอำเภอเกาะคา

นอกจากนี้ ด้าน มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ (มพน.) เองก็ได้มีการอัพเดตสถานการณ์เฝ้าระวังในพื้นที่สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เช่นกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ชุมชนบ้านแม่หมี ม.6 ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนตกต่อเนื่องและเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักจนเกิดเหตุ ดินสไลด์ 5-6 จุด ทำให้เส้นทางเข้า-ออกชุมชนถูกปิดกั้น ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนในชุมชน เด็กไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ และมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างน้อย 50 ครัวเรือน รวมประมาณ 150 คน

ชุมชนบ้านขวัญคีรีนอก ม.11 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ทำให้เกิดดินสไลด์และต้นไม้ล้มกีดขวางถนนประมาณ 10 จุด เสาไฟฟ้าหัก 6 ต้น น้ำป่าไหลเข้ากระทบพื้นที่นากับสวนของชาวบ้าน ไฟฟ้าดับตั้งแต่เมื่อคืนและอาจจะดับติดต่อกันหลายคืน หากฝนยังไม่หยุดตก การเคลียร์พื้นที่ถนนต้องใช้รถแม็คโครเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน นอกจากนี้ ระบบประปาภูเขายังเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ และน้ำบ่อก็ใกล้หมด

บ้านขวัญคีรีใน ม.11 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ขณะนี้ประสบปัญหาน้ำท่วมจากฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 23 ก.ย. น้ำท่วมหนักที่สุด ส่งผลให้บริเวณสะพานและใต้ถุนบ้านของชาวบ้านอย่างน้อย 2 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม รวมถึงพื้นที่นาและไร่ข้าวโพดบางแปลงที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าในอนาคตอาจมีการเสียหายเพิ่มเติมในแปลงเกษตรจากลมและฝน รวมถึงอาจเกิดดินสไลด์และถนนบางส่วนที่จะเข้าสวนถูกตัดขาดจากการกัดเซาะของน้ำ 

บ้านกลาง ม.5 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ขณะนี้มีฝนตกติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ฝนตกหนัก ส่งผลให้น้ำในลำห้วยมีระดับสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง บริเวณบางจุดที่เคยเกิดดินสไลด์มาก่อน โดยเฉพาะใกล้โรงเรียน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ ยังมีดินสไลด์ประมาณ 10 จุดตามเส้นทางหลักที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านกับตีนดอย ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ทั้งหมด 67 ครัวเรือน จำนวน 297 คน

บ้านแม่ส้าน ม.6 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง สถานการณ์ในพื้นที่มีฝนตกติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ และมีฝนตกหนักเป็นระยะ ๆ ส่งผลให้เส้นทางสัญจรจากชุมชนลงไปในเมืองเกิดดินสไลด์ประมาณ 50 จุด นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่และกองไผ่ล้มกีดขวางการจราจร ส่วนน้ำในลำห้วยมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ระบบประปาภูเขามา 3 วัน เนื่องจากดินเข้ามาถมที่ปากท่อ รวมถึงไม้ล้มทับท่อประปาแตก กทั้งไฟฟ้ายังดับบ่อยครั้ง หากฝนยังไม่หยุดตก มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์คล้ายกับชุมชนบ้านห้วยหินลาดใน จ.เชียงราย รวมถึงไม้ใหญ่ที่มีความกังวลว่าจะล้มจากพายุฝน

แพร่ยังอ่วม น้ำยมยังไม่ลด มีแนวโน้มเพิ่มสูงต่อเนื่อง

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ รายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำยมซึ่งเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่อำเภอเมืองแพร่และอำเภอสูงเม่น ตั้งแต่บ่ายของวันที่ 24 ก.ย. 67 ยังไม่ลดลง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือจากอำเภอสอง ซึ่งได้ไหลมาสมทบน้ำที่มีอยู่เดิม

ในวันนี้ (26 ก.ย. 67) เวลา 09:00 น. ระดับน้ำที่จุดวัด Y.1C บ้านน้ำโค้ง ตำบลป่าแมต อยู่ที่ 9.55 เมตร จากระดับตลิ่ง 8.20 เมตร โดยมีปริมาณน้ำ 1,211.50 ลบ.ม. ต่อวินาที สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 

ขณะเดียวกัน สถานีวัดระดับน้ำ Y.37 บ้านวังชิ้น ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น รายงานระดับน้ำอยู่ที่ 11.89 เมตร จากระดับตลิ่ง 11.00 เมตร โดยมีปริมาณน้ำ 1,590.70 ลบ.ม. ต่อวินาที สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่นี้ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สถานการณ์น้ำในจังหวัดแพร่ขณะนี้มีการเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านสองแคว บ้านร้องขี้ปลา บ้านน้ำโค้ง บ้านมหาโพธิ์ ตำบลป่าแมต บ้านหัวดง ตำบลทุ่งกวาว และชุมชนเชตวันในเขตเทศบาลเมืองแพร่

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก แพร่โพสต์ แพร่ ทุกโพสต์ ที่โดนใจ ได้อัพเดตภาพมุมสูงแสดงสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเมืองแพร่ เมื่อเช้าวันที่ 26 ก.ย. 67 ระหว่างเวลา 07.00 – 08.00 น. โดยมีรายละเอียดในแต่ละสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้แก่ สะพานบ้านมหาโพธิ์ ถนนเส้นทางไปสะพานบ้านมหาโพธิ์ ถนนเส้นทางไปสะพานบ้านมหาโพธิ์ (หลังศาล) ชุมชนบ้านมหาโพธิ์ และชุมชนบ้านมหาโพธิ์ (7-11) ป่าแมต ปั๊มปตท ป่าแมต สำนักงานวัฒณธรรมจังหวัดแพร่ โรงงานก๋วยเตี๋ยว ป่าแมต และบ้านสุพรรณ ชุมชนเชตวัน หลังวัดเชตวัน หลังสำนักงานวัฒณธรรมจังหวัดแพร่ บ้านเขียว ชุมชนบ้านใหม่ สวรรค์นิเวศ หลังสาธารณสุขจังหวัดแพร่ หอพักคริสมาส และท่าทราย ด้านนอกกำแพงเมือง หลังวัดศรีชุม หลังศาล หลังวัดหัวข่วง และประตูยั้งม้า สะพานบ้านน้ำโค้ง อุทกวิทยา แพร่ (สถานีวัดน้ำ Y1C บ้านน้ำโค้ง) สนามฟุตบอล glory-sc และบ้านหนองใหม่

สุโขทัยวิกฤต พนังกั้นน้ำแตก น้ำท่วมบ้านประชาชนกว่า 500 หลังคาเรือน

ThaiPBS รายงานว่า วันนี้ (26 ก.ย. 67) เวลา 10.55 น. สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่อำเภอศรีสำโรง ถนนเลียบคลองแม่น้ำยมซึ่งเป็นพนังกั้นน้ำเกิดการแตก ส่งผลให้มีน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 500 หลังคาเรือน นอกจากนี้ กระแสน้ำยังทำให้ถนนขาดไป 2 จุด

นายวิทยา สันติกุล นายอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ในพื้นที่ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำของแม่น้ำยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีถนนเลียบแม่น้ำพังบางจุด ชาวบ้านจึงต้องช่วยกันสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ถนนอีกเส้นพังเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ด้านอำเภอศรีสัชนาลัย มีคันดินแตก ส่งผลน้ำไหลลงสู่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

อัพเดตสถานการณ์น้ำเขื่อนภาคเหนือ มีน้ำในอ่างเท่าไหร่? ปริมาตรน้ำระบายเป็นยังไง?

อัพเดตสถานการณ์น้ำในเขื่อนภาคเหนือ จากเว็บไซต์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ณ วันที่ 26 ก.ย. 67 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล น้ำในอ่างกักเก็บ 297 ล้าน ลบ.ม. (112%) ปริมาตรน้ำระบาย 0.11 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนกิ่วคอหมา น้ำในอ่างกักเก็บ 187 ล้าน ลบ.ม. (110%) ปริมาตรน้ำระบาย 23.02 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนกิ่วลม น้ำในอ่างกักเก็บ 99 ล้าน ลบ.ม. (93%) ปริมาตรน้ำระบาย 30.22 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนสิริกิติ์ น้ำในอ่างกักเก็บ 8,396 ล้าน ลบ.ม. (88%) ปริมาตรน้ำระบาย 14.96 ล้าน ลบ.ม.

เขื่องแม่กวงอุดมธารา น้ำในอ่างกักเก็บ 175 ล้าน ลบ.ม. (66%) ปริมาตรน้ำระบาย 0.06 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนแม่มอก น้ำในอ่างกักเก็บ 68 ล้าน ลบ.ม. (62%) ปริมาตรน้ำระบาย 0.22 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน น้ำในอ่างกักเก็บ 555 ล้าน ลบ.ม. (59%) ปริมาตรน้ำระบาย 0.61 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนภูมิพล น้ำในอ่างกักเก็บ 7,682 ล้าน ลบ.ม. (57%) ปริมาตรน้ำระบาย 1 ล้าน ลบ.ม.

‘เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง’ สทนช. ประกาศเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในลำปางและเชียงใหม่

ที่มา เฟซบุ๊ก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ประกาศเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังในแม่น้ำวัง ระหว่างวันที่ 24 ก.ย. – 3 ต.ค. 67 และน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังในแม่น้ำปิง ระหว่างวันที่ 25 – 30 กันยายน 2567 เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำวังและน้ำปิง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ขอให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ดังนี้

จังหวัดลำปาง ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำ อ.เถิน ประมาณ 0.2 – 0.5 ม. ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 2567 จ.ตาก ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำ อ.สามเงา ประมาณ 1.0 – 1.3 ม. ในช่วงวันที่ 24 ก.ย. – 3 ต.ค. 2567

จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ ต.ช้างคลาน ป่าแดด หายยา ช้างม่อย วัดเกต ช้างเผือก หนองหอย ท่าศาลา ฟ้าฮ่าม ป่าตัน สันผีเสื้อ และหนองป่าครั่ง อ.เมือง ต.หนองผึ้ง และท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง โดยจะมีระดับน้ำสูงสุด ในวันที่ 26 – 27 ก.ย. 2567 ประมาณ 1.0 – 1.5 ม. จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้น เตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขา รวมทั้งแจ้งเตือนล่วงหน้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง