29 พฤษภาคม 2567 สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จังหวัดลำพูน รวมตัวกันคัดค้านการเข้ามารังวัดพื้นที่ของนายทุนในการอ้างสิทธิครอบครองและออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ ในพื้นที่บ้านสันตับเต่า ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน สกน.ได้มีการยื่นหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน สาขาบ้านโฮ่ง เพื่อให้ยุติการเข้ามารังวัดสอบแนวเขตในพื้นที่ของชาวบ้าน
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีการแจ้งหนังสือจากสำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน สาขาบ้านโฮ่ง มายังพื้นที่บ้านสันตับเต่า ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ว่ามีการยื่นหนังสือคำร้อง ขอเข้าพื้นที่เพื่อมารังวัดสอบแนวเขตตามการอ้างครอบครองโฉนด ซึ่งที่ดินบริเวณนั้นเป็นที่ดินที่ครอบครองโดยชาวบ้านมามากกว่า 24 ปี อีกทั้งการเข้ามารังวัดทุกครั้งของนายทุนได้มีการฟ้องร้องขับไล่ดำเนินคดีกับชาวบ้านมาแล้วจำนวน 5 ราย
วิศรุต ศรีจันทร์ จากสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ให้สัมภาษณ์กับ Lanner ว่า ชาวบ้านสันตับเต่าเริ่มรวมตัวกันปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวในปี 2546 เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ โดยการปลูกพืชไม้ยืนต้นและพืชล้มลุก เช่น มะม่วง ฟักทอง เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีที่ดินไม่พอทำกินบางครอบครัวต้องไปเช่าที่ดินทำกิน บางครอบครัวต้องทำไปเป็นแรงงานรับจ้างค่าแรงต่ำไร้สวัสดิการ แต่หลังจากปฏิรูปที่ดินมีการจัดสรรที่ดินให้ครอบครัวละประมาณ 3-5 ไร่ เพื่อทำการเพาะปลูกทางการเกษตรเพื่อหาเลี้ยงชีพ ต่อมาในปี 2550 กลุ่มปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนบ้านสันตับเต่าได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) และเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ( p –move ) และในปีเดียวกันนี้เองได้มีกลุ่มนายทุนที่มีอิทธิพลในจังหวัดลำพูนได้เข้ามาแสดงตัวและเอกสารสิทธิ์เหนือที่ดินดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏว่ามีเจ้าของในที่ดินบริเวณดังกล่าวและไม่มีร่องรอยการครอบครองทำประโยชน์ใด ตามที่นายทุนกลุ่มดังกล่าวอ้าง
วิศรุต อธิบายต่อว่า กลุ่มนายทุนพยายามขับไล่ชาวบ้านทุกวิถีทางทั้งการใช้กำลังและการฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็ยังยืนยันที่จะทำประโยชน์ต่อไปเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านทำประโยชน์มาก่อน จนมีชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีบุกรุก 4 รายทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ในส่วนคดีอาญาทั้ง 4 ราย ศาลพิพากษาว่าไม่มีความผิด ปัจจุบันยังเหลือคดีแพ่งอีก 2 ราย
ด้านสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ จังหวัดลำพูน มองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยสิทธิตามกฎหมาย และเป็นการคุกคามละเมิดสิทธิชุมชน จึงได้ยืนยันสิทธิตามกฎหมายในการขอยุติเข้าไปรังวัดสอบแนวเขตในครั้งนี้ และหาแนวทางพูดคุยหารือเพื่อแก้ไขปัญหากับส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันต่อไป
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...