29 สิงหาคม 2566 เวลา 9.00 – 12.00 น. ที่ ห้องพิจารณาคดีหมายเลข 4 ศาลแรงงานภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ได้เดินทางไปยังศาลแรงงานตามคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ ร.50/2566 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2566 ซึ่ง มสพ.ได้เป็นทนายความให้แก่แรงงานข้ามชาติฟ้องสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนสำนักงานประสังคม กระทรวงแรงงาน กรณีที่สามีของแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมาเสียชีวิตขณะทำงานก่อสร้างในโครงการหมู่บ้านจัดสรรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในวันนี้เองศาลได้มีสืบพยานเสร็จสิ้น และนัดฟังคำตัดสินคดีในวันที่ 25 กันยายน 2566
“คดีนี้ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่กับคณะกรรมการกองทุนฯ เขายอมรับว่าลูกจ้างแรงงานข้ามชาติเสียชีวิตจากการทำงานจริง และยอมรับว่านายจ้างเป็นบริษัทนี้จริง แต่ว่าที่มันผิดเพี้ยน คือ การออกคำสั่งให้นายจ้างมาจ่ายเงินทดแทน ซึ่งเรามองว่ามันผิดวัตถุประสงค์ของการสร้างกองทุนนี้ขึ้นมา มันคือการออกกระดาษมาหนึ่งใบแล้วให้ลูกจ้างไปบังคับเอาเงินกับนายจ้าง เรามองว่ามันไม่เป็นธรรมกับลูกจ้าง” ปสุตา ชื้นขจร
ปสุตา ชื้นขจร ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) กล่าวว่า ในฐานะทนายความของคดีนี้การที่ฟ้องสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ จำเลยที่ 1 และคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประสังคม กระทรวงแรงงาน จำเลยที่2 เพราะว่าคดีแรงงานลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว กรณีลูกจ้างแรงงานข้ามชาติเข้าไม่ถึงกองทุนเงินทดแทนที่เป็นสิทธิของแรงงานที่นายจ้างต้องทำให้ลูกจ้าง และหน่วยงานรัฐมีหน้าที่กำกับดูแลในการใช้กฎหมายกองทุนเงินทดแทน ซึ่งหากเมื่อไปดูวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนนั้นระบุไว้ชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์ในการที่จะคุ้มครองและเยียวยาฐานะทางเศรษฐกิจระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง เพราะว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ลูกจ้างประสบอันตรายและไม่ได้เงินทดแทนจากนายจ้างนั้น เป็นเรื่องยากที่ลูกจ้างจะเรียกร้องต่อนายจ้างด้วยตัวเอง รัฐจึงมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่นี้เพื่อประสานระหว่างนายจ้างและลูกจ้างรวมทั้งดูแลแรงงาน ดังนั้น การฟ้องร้องโดยตรงเมื่อลูกจ้างเจอสถานการณ์ที่ไม่ได้รับเงินทดแทนจึงใช้เวลายาวนานมากในชั้นศาล ดังนั้น การคุ้มครองแรงงานมันควรให้ลูกจ้างเข้าถึงเงินทดแทนเลยเมื่อเกิดความเสียหาย เช่น คนที่ทำหน้าที่หลักในครอบครัวเสียชีวิต แปลว่าคนที่เหลือในครอบครัวจะได้รับความเดือดร้อน
ความรู้สึกของภรรยาผู้ตาย-แรงงานข้ามชาติ
“อยากให้แรงงานข้ามชาติได้รับสิทธิที่กฎหมายแรงงานไทยมีไว้ให้อย่างถูกต้อง บางคนที่เป็นคนใช้แรงงานไม่รู้ว่าสิทธิมีอะไรบ้าง อยากให้มีเจ้าหน้าที่บุคคลแนะนำ เราทำงานในเมืองไทยเราต้องได้รับการคุ้มครองอะไรบ้าง เพราะเวลาเราทำบัตรแรงงานข้ามชาติเราจ้างทุกอย่าง ตัวเราเองไปดำเนินการอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แม้แต่นายหน้าเราก็ต้องจ้างเป็นรายปี ค่าเอกสาร ค่าอะไรต่างๆ เราต้องจ่ายทุกบาททุกสตางค์ เราก็ควรได้รับการคุ้มครองสิทธิในฐานะแรงงานที่มาทำงานในประเทศไทยด้วย” แรงงานข้ามชาติ
ภรรยาแรงงานข้ามชาติผู้เสียชีวิต โจทก์ฟ้องคดีนี้ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจกับการตายของสามีในขณะทำงานก่อสร้างแต่กลับไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายที่ควรได้ ตนมองว่าคนงานตายทั้งคนนายจ้างให้เงินเพียงแค่ค่าสินน้ำใจ 30,000 บาท สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อครอบครัวแรงงานข้ามชาติอย่างมาก ซึ่งภรรยาเล่าว่าตอนที่สามีทำงานตำแหน่งคนงานก่อสร้างให้แก่บริษัทโครงการหมู่บ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่ และประสบอุบัติเหตุจากการทำงานให้นายจ้างจนเสียชีวิต ตนเผชิญกับภาวะยากลำบากเพราะการที่ต้องสูญเสียสามีและต้องดูแลลูกชายโดยลำพังทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่หรือมีใครช่วยเหลือได้ ความรู้สึกไม่เป็นธรรมที่ไม่ได้รับค่าทดแทนตามสิทธิกฎหมายแรงงานทำให้ภรรยาผู้เสียชีวิตเดินทางไปยังมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) เพื่อขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย โดยต่อมาทางมูลนิธิฯ ได้ทำหนังสือติดตามขอคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนกรณีแรงงานข้ามชาติผู้เสียหายนี้เสียชีวิตขณะปฏิบัติงานในโครงการหมู่บ้านจัดสรรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนได้ระบุชัดเจนว่านายจ้างคือใคร และต้องชดเชยเท่าไหร่ให้แก่ลูกจ้างตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 ซึ่งแม้จะมีคำสั่งจากหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ แต่นายจ้างซึ่งก็คือบริษัทโครงการหมู่บ้านจัดสรรจังหวัดเชียงใหม่ก็ให้การปฏิเสธโดยอ้างถึงสัญญาจ้างต่อแรงงานผู้เสียชีวิตว่าเป็นสัญญาจ้างทำของ โดยทำกับผู้รับเหมา ดังนั้นบริษัทโครงการบ้านจัดสรรจึงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันในฐานะนายจ้างกับลูกจ้างผู้เสียชีวิตและไม่จำเป็นต้องทำตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน
#แรงงานข้ามชาติ #การเรียกร้องสิทธิ์ทางกฎหมาย #เสียชีวิตจากการทำงานก่อสร้าง #ช่องว่างของสัญญาจ้าง #ประกันสังคม #กองทุนเงินทดแทน
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...