12/07/2022
วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ อาจารย์ประจำภาควิชาสื่อศิลปะ และการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก Sorayut Aiemueayut ต่อกรณีที่มีการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแม่ข่าให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในสไตล์ญี่ปุ่น โดยมีความคิดเห็นว่า
“ผมกับทีมเพิ่งไปจัดเวิร์คชอปในชุมชนมาเมื่อปลายเดือนที่แล้วมีความเห็นแบบนี้ครับ เนื่องจากภาพที่เห็นไม่ตรงกับข้อมูลของคนในชุมชน
1. ตลิ่งที่เห็นและทางเดินที่เห็น สร้างปัญหาให้คนในชุมชนมากเพราะมันสูงกว่าของเดิมทำให้เวลาฝนตกจะเกิดน้ำท่วมขังนานกว่าปกติเพราะน้ำระบายออกช้ามาก (ปกติน้ำก็ท่วมอยู่แล้ว และหนักกว่าเดิมตอนทำทางเดินใหม่) ทำให้งู หนู และแมลงสาปเข้าบ้านคนในชุมชนเยอะมากขึ้น เด็กๆในชุมชนอันตรายมากขึ้น
2. ตลิ่งเดิมและทางเดินธรรมชาติเดิมเต็มไปด้วยพืชผักสวนครัวที่ชาวบ้านปลูก การก่อสร้างทางเดินใหม่นี้ทำลายพื้นที่ส่วนรวมของชาวบ้านไปอย่างน่าเสียดาย อย่าไปโรแมนติกกันนักกับภาพปลูกผักหรือหยอดเมล็ดพันธ์ุตรงรูของคอนกรีต
3. ตลิ่งและทางเดินธรรมชาติเดิมมีไม้ใหญ่ขึ้นมาก ทางผู้ดำเนินการก่อสร้างเคยบอกกับชาวบ้านว่าจะไม่ตัด ปรากฏว่าตัดหมดครับ คนที่นั่นร้อนกันมาก อย่าเห็นแค่ภาพ แต่แนะนำให้ลองไปเดินหรือไปอยู่เองช่วงกลางวันดู นอกจากนี้ ระบบนิเวศน์ของคลองก็เปลี่ยนไปด้วย
4. ชุมชนริมคลองแม่ข่านี้ มีหลายชุมชนทั้งชุมชนดั้งเดิมของเชียงใหม่และชุมชนชาติพันธุ์ที่อพยพลงมา มีประวัติศาสตร์ของการต่อสู้กับการถูกไล่รื้อโดยหน่วยงานราชการมาไม่ต่ำกว่า 25 – 30 ปี ครับ โครงการก่อสร้างนี้เคยสัญญาไว้ว่าจะไม่ไล่รื้อชุมชน แต่จากการสัมภาษณ์ล่าสุด เริ่มมีกระแสข่าวการไล่รื้ออีกครั้ง ภาพที่เห็นว่าสวยหรือชีวิตที่ว่าชิวหน่ะ มันไม่เป็นอย่างที่เห็นนะครับ คนในชุมชนทำหน้าที่เป็นแรงงานหล่อเลี้ยงเมืองทั้งแรงงานรับจ้างและงานภาคบริการ เป็นส่วนของแรงงานที่คนมองข้าม เมืองถูกขับเคลื่อนด้วยคนเหล่านี้แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการพัฒนาเมืองมักจะขับไล่พวกเค้าออกไปจากเมือง
5. ปัญหาของน้ำเน่าเสีย ชุมชนริมคลองแม่ข่าสร้างการรณรงค์จัดการกันเองมาตั้งแต่ช่วงปี 2545 แล้วครับโดยประมาณ ทั้งเก็บกวาดทำความสะอาดคลอง และทำกันมาเรื่อย ๆ อาจารย์มช.หลายท่านก็เข้าไปร่วมในโครงการ เชื่อไหมว่า คนในชุมชนเค้าสามารถแยกชั้นและจัดจำแนกขยะแต่ละประเภทได้ว่าขยะประเภทไหนอยู่ในความลึกระดับไหนของน้ำ แต่ปัญหาเรื่องความเน่าเสียหลัก ๆ คือมันไหลผ่านตลาดใหญ่ของเชียงใหม่ ผ่านโรงงานต่าง ๆ ครับ ชาวบ้านจะเล่าได้ชัดเจนว่าวันนี้น้ำเสียมาจากโรงงานไหน เพราะสภาพมันฟ้อง
ภาพฝันของคนชั้นกลางและนักท่องเที่ยวในเมืองมันก็ดูดีอยู่หรอกถ้าไม่มองข้ามชีวิตของผู้คนอีกมากในเมือง คนไปเที่ยวคือคนที่มาถ่ายรูปแล้วก็จากไป สร้างคอนเทนบอกเล่าสิ่งที่อยากเล่าโดยมองไม่เห็นข้อเท็จจริง
เมืองที่น่าอยู่มันไม่ใช่เมืองที่สวยด้วยภาพถ่ายหรือไปก๊อปรูปแบบใครเขามาแต่มันคือเมืองที่กอบเอาชีวิตและความฝันของคนหลากหลายกลุ่มเข้าไว้ด้วยกันไม่ใช่หรือ
ผมขอพูดในฐานะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไล่รื้อชุมชนที่นั่นในปี 2544-45 ภาพชีวิตของคนที่บ้านแตกสาแหรกขาดยังติดตาผมอยู่เลย”
ภาพ: วรรณา แต้มทอง และเพจสุดใจร้าย
#คลองแม่ข่า
#Lanner
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...