เข้าใจว่า
“อากาศ
แม่น้ำ
แสงแดด
และไฟสว่าง”
ในดินแดนแห่งนี้
เป็นของเราร่วมกัน
หากฉัน เพื่อน หรือใครสักคน
โดยไม่จำกัดฐานะชนชั้น
เปล่งวาจาขึ้นกลางลานสาธารณะ
ว่าวันนี้อากาศที่สูดดมช่างเลวร้าย
เพราะป่าที่นั่นมอดไหม้
สวนข้าวโพดที่โน่นถูกเผา
หรือเพราะไอเสียจากรถยนต์
และโรงงานนั่นโรงงานนี่
จะมีใครตวาดให้เราหยุดพล่าม
และมัดมือมัดเท้าเราด้วยโซ่ตรวนแห่งเงินตรา
เช่นที่กระทำกับเพื่อนหลายคนก่อนหน้าไหม
หากประกาศกล้าต่อหน้าธารกำนัล
ว่าค่าไฟฟ้าเดือนนี้แพงจนจ่ายไม่ไหว
หรือแม่น้ำที่เคยอาบ เคยใช้
กำลังแห้งเหือดเพราะเขื่อนสักแห่ง
จะมีใครเอาคุกตารางมาขู่ให้เราเงียบนิ่ง
เช่นที่เพื่อนหลายคนก่อนหน้าเคยถูกกำราบไหม
ฉันเคยถูกสอนว่าทรัพยากรในดินแดนนี้เป็นของเราร่วมกัน
แต่เมื่อไม่อาจเปล่งถ้อยคำถึงของของตนได้
จึงเริ่มไม่แน่ใจว่าบางสิ่ง บางอย่าง
ถูกจัดสรรให้เป็นของพิเศษเฉพาะใครบางคนหรือเปล่า
จึงถามอีกครั้งต่อสิ่งซึ่งคั่งค้างในความคิดความเชื่อ
“เราไม่ได้เป็นเจ้าของอากาศและแสงสว่างร่วมกันหรอกเหรอ”
ผู้ประพันธ์: อติรุจ ดือเระ
พิสูจน์อักษร: ฮาฟีซีน นะดารานิง และกูอิลยัส สุดทองคง
ชุดบทกวีเพื่อตีแผ่และต่อต้านการฟ้องปิดปาก/การจำกัดเสรีภาพการแสดงออก
ซีรีส์-บทกวีถ่ายทอดประสบการณ์-การถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกจํานวน 1 ชุด (ประกอบด้วยบทกวี 7 ชิ้น) ภายใต้แนวคิด “เสียงหายในเงามืด” โดยถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ถูกละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกจํานวน 7 กรณี ที่มีเค้าโครงมาจากความจริง เพื่อสะท้อนความรู้สึกและเป็นกระบอกเสียงให้สาธารณชนได้รับรู้ว่าสังคมไทยเกิดการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกที่เกิดขึ้นจริงอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งทิ้งบทเรียนเพื่อขอแรงมวลชนช่วยกันสร้างบรรยากาศแห่งเสรีภาพให้มากขึ้น โดยจะเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Lanner และ Facebook Page : Demopens
Lanner เปิดพื้นที่ในการขยายพื้นที่สื่อสาร โดยความคิดเห็นไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ สามารถส่งมาได้ที่ lanner.editor@gmail.com
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...