30/05/2022
12.05 น. ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มประชาชน ได้ขยับรั้วเพื่อตั้งเวทีปราศรัย โดย เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ตัวแทนขบวนได้ขึ้นปราศรัยบนรถชั่วคราวระบุว่า
“เป็นเวลานานมากแล้ว แต่ตัวแทนรัฐบาลยังไม่ลงมาเจรจากับเรา เพราะรัฐบาลไม่แยแส ไม่ใส่ใจประชาชนที่มาปักหลักกันเป็นเวลา 8 วันแล้ว เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้รับคำตอบจากรัฐบาล
13.45 น. ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่าได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่เนื่องจากมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ช่วงนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็น ยังไม่มีการเดินหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการพยายามโน้มน้าวให้ประชาชน ให้รอการเจรจากับรัฐมนตรี โดยขอให้ขบวนฯ ส่งตัวแทนไปเจรจาในวันที่ 31 พฤษภาคม เวลา 15.30 น. แต่ขอให้มากันตามจำนวนที่เหมาะสม โดยให้ทางตัวแทนที่จะมาเจรจาตรวจ ATK เพราะกังวลว่าทางรัฐมนตรีจะต้องกักตัว จะได้มีเวลาทำงานเพื่อพี่น้องที่เดือดร้อนเรื่องอื่นต่อ”
โดยสมบูรณ์ คำแหง ทีมเจรจาของขบวนฯ ได้พูดคุยกับผู้ชุมนุมว่าพึงพอใจหรือไม่กับข้อเสนอหรือไม่ ซึ่งคำตอบก็คืออยากให้มาวันนี้ โดยต้องการให้รัฐมนตรีลงมาพูดคุยวันนี้ ในเวลา 15.00 น. และขอให้ปลัดฯ ไปนำเรียนและประสานงานต่อไปในฐานะคนกลาง โดยระหว่างนี้ได้มีการปราศัยจากเครือข่ายต่างๆ ที่มาร่วมการชุมนุม
15.40 น. มีตัวแทนพรรคการเมืองสามพรรคร่วมแสดงจุดยืนและความเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ โดยมีพรรคการเมือง 3 พรรคร่วมแสดงจุดยืน ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งแถลงตรงกันว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจที่เป็นมรดกคสช. ซึ่งการรวมกลุ่มเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต่อด้วยกิจกรรมเผาพริกเผาเกลือสาปนายกและคณะรัฐมนตรี ที่จ้องฮุบเสรีภาพการรวมกลุ่มประชาชน ในเวลา 16.16 น.
17.00 น. ขบวนฯ ได้แถลงคำประกาศ โดยมีเนื้อหาดังนี้
พวกเราขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนซึ่งเกิดจากการรวมกลุ่มของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน คนจน ชาวนา เกษตกร ประชาชน นักกิจกรรม คนรุ่นใหม่ และองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหญิงและชายและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศมากกว่า 67 องค์กรเครือข่าย ที่มีความเห็นและเจตนาร่วมกันชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับร่างกฎหมายทำลายสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับได้มาร่วมกันใช้สิทธิชุมนุมกันอีกครั้งเพื่อยืนยันคัดค้านและเรียกร้องให้ยุติการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ โดย 8 วัน ที่เราได้มาอยู่มากิน มานอน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อสู้ไปด้วยกันเพื่อหยุดกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มท่ามกลางความยากลำบากและตึงเครียดจากการคุกคามและกระบวนการเจรจาที่ไม่เห็นหัวประชาชน
อย่างไรก็ตามเราถือว่าเรามาด้วยกันไกลตั้งแต่วันที่เราไปที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การทำงานร่วมกันที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาการเรียนรู้ เป็นช่วงเวลาที่งดงามและเราเชื่อว่า
1.การรวมตัวกันในครั้งนี้ในนามขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนเป็นชัยชนะที่มีการรวมตัวกันของภาคประชาชนที่หลากหลายทั่วประเทศ การทำงานร่วมกันถือเป็นการฟื้นฟูและเสริมสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการภาคประชาชน
2. รัฐบาลไม่ได้นำร่างกม.เข้าครม. ซึ่งก็ยังถือว่ากฎหมายนี้ยังไม่มีการผลักดันต่อ
3. ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนพร้อมรวมตัวกันกลับมาถ้ารัฐบาลจะผลักดันกฎหมายควบคุมการร่วมกลุ่มอีก
4 สังคมและสื่อมวลชนได้รับรู้แล้วว่าร่างกม.นี้ไม่ใช่แค่ควบคุมเอ็นจีโอแต่รวมถึงการรวมกลุ่มของทุกกลุ่ม และประชาชนทุกคน
5.ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนมีความมุ่งมั่นปราถนาที่จะกลับไปทำงานเผยแพร่ปัญหาของร่างกม.ในพื้นที่ ชุมชนและท้องถิ่นของตนเอง เพื่อที่จะให้ประชาชนได้ทราบถึงความร้ายแรงของกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มที่แทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการรวมกลุ่มของประชาชน ยิ่งรัฐห้ามประชาชนรวมกลุ่ม ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความกลัวของรัฐถึงพลังของการรวมกลุ่ม
ต่อจากที่เราประกาศไปเมื่อเช้า เรากำลังปีนบันไดไปทีละขั้น เพื่อสู่หนทางแห่งชัยชนะในท้ายที่สุด
วันนี้คือบันไดขั้นที่สองหลังจากการชุมนุมที่พม. และเราจะก้าวต่อไปอย่างไม่ย่อท้อสิ้นหวังใด ๆ เพื่อเดินทางไปถึงจุดนั้น เราจะยังคงร่วมเขียนประวัติศาสตร์เพื่อบอกเล่าไล่เรียงเรื่องราวบนท้องถนนที่กำลังนำเราไปสู่เส้นทางแห่งชัยชนะด้วยการล้มร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. ….’ ให้จงได้ การรวมกันคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้จะนำไปสู่การล้มล้างมรดกคสช.ในกรณีอื่น ๆได้อีกมากมาย
หยุดมรดก คสช. หยุด พ.ร.บ. การรวมกลุ่ม
เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ
ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน
หน้าตู้คอนเทนเนอร์ ทำเนียบรัฐบาล
30 พฤษภาคม 2565
ทั้งนี้หลังจากแถลงการณ์ได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และการแสดง Performance Art จากกลุ่ม NU-Movement ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านราษฎร์ธรรมนูญ บริเวณหน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติ
ภาพ: Chaiyawat S. Chanachai และเพจ No NPO Bill
#Lanner
#NoNpoBill
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...