สส. – สว. ลำพูน ยืนยันเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ด้านสภาพลเมืองหวังเสียง สว. เกินครึ่ง

8 กุมภาพันธ์ 2568 สภาพลเมืองจังหวัดลำพูน จัดการประชุมสภาพลเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับข้อเสนอแนะ ณ ห้องประชุมหอศิลป์สล่าเลาเลือง จังหวัดลำพูน โดยประชุมด้วยกัน 2 ประเด็น ได้แก่ การนำเสนอครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก และ การขับเคลื่อนยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีการจัดตั้ง สสร. (สมาชิกสภายกร่างรัฐธรรมนูญ) เพื่อเดินหน้าสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ในวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2568

โดยในวาระการนำเสนอ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เป็นบุคคลสำคัญของโลก ได้มีการรายงานความคืบหน้าการเสนอชื่อให้กับองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก และยังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยมี วีระเดช ภู่พิสิฐ ว่าที่นายกอบจ.จังหวัดลำพูน เข้าร่วมรับฟังการประชุมและยืนยันว่าจะผลักดันครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกตามที่ได้หาเสียงไว้

ช่วงการนำเสนอภาพรวมการยกร่าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ทันใช้ในสมัยการเลือกตั้งปี 2570 โดย ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และคณะทำงานของไอลอว์ ได้อธิบายว่า ขั้นตอนแรกในการที่จะได้มาของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน คือการเสนอแก้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเข้าสู่การพิจารณาของสภา โดยทำประชามติแก้ไขมาตรา 226 ระบุให้มี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อผ่านแล้วก็จะมีการเลือกตั้ง สสร. และให้ สสร. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ สุดท้ายคือการทำประชามติรับรองรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นอันเสร็จสิ้นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อย่างเร็วที่สุดที่จะเสร็จทุกขั้นตอนคือประมาณ 23 เดือน

“รัฐบาลปัจจุบันได้เสนอให้ทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 รอบ โดยได้เพิ่มรอบแรกเป็นรอบพิเศษของ สว. ซึ่งประชามติในครั้งแรกนี่แหละที่กลายเป็นปัญหา เพราะมันเป็นการยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายก็ไม่ได้ทำ ซึ่งจริงๆ ครั้งแรกไม่จำเป็นและกฎหมายก็ไม่ได้บอกให้ทำ” ยิ่งชีพ กล่าว

ขณะนี้มีสองพรรคที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดยพรรคประชาชนเสนอให้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และเลือกตั้ง สสร. 100% (แบ่งเขต 100 คน ปาร์ตีลิสต์ 100 คน) ส่วนพรรคเพื่อไทย เสนอให้เขียนใหม่เช่นกัน แต่ไม่แตะ หมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ โดยเสนอให้เลือกตั้ง สสร. 100% เช่นกัน แต่มาจากแบ่งเขตทั้ง 200 คน ส่วนรัฐบาลและพรรคร่วมอย่างภูมิใจไทยยังไม่มีการเสนอยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ซึ่งในสภาตอนนี้หากรวมเสียงจาก สส. พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยรวมกันก็ยังไม่ถึง 350 โหวต ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือจาก สส. พรรคอื่นๆ และขอจาก สว. 1 ใน 3 จึงจะผ่านได้ และสุดท้ายหากวันที่ 13-14 นี้ร่างของทั้งสองพรรคไม่ผ่าน มันจะมีความหมายว่าในรัฐบาลนี้จะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะไม่มีความหวังเกิดขึ้นอีกแล้ว ต้องรอรัฐบาลหน้า แต่อย่างน้อยถ้าเราพูดถึงมัน เราช่วยกันส่งเสียงว่าวันที่ 13-14 นี้มันสำคัญขนาดไหน กลับไปบอกพี่น้องเราหรือคนที่ยังไม่รู้ว่าจะมีการพิจารณาให้ช่วยกันส่งเสียงให้ดังถึงในสภา เชื่อว่ามันเปลี่ยนได้

ในช่วงสุดท้ายก่อนปิดการประชุมเป็นการฟังเสียงจากรัฐสภาไทยโดยผ่าน สส. และ สว. จังหวัดลำพูน และยังรับฟังเสียงจากสมาชิกสภาพลเมืองฯ และผู้เข้าร่วมประชุม

ฉัตรณพัฒน์ สมศักดิ์เกตุกร สส. พรรคประชาชน จังหวัดลำพูน กล่าวว่า พรรคประชาชนรับหลักการแน่นอน เพราะที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือรัฐธรรมนูญฉบับอื่นไม่เคยมีการเลือกตั้ง สสร. มาก่อน การที่มีการเลือกตั้ง สสร. นั่นแปลว่าประชาชนจะได้ตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ

กัลยา ใหญ่ประสาน สว. จังหวัดลำพูน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เสียง สว. ส่วนใหญ่จะสนับสนุนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ทุกวันนี้ประชาชนมายื่นเรื่องร้องเรียนปัญหาต่างๆ ก็พบว่าส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ถ้าจะลดปัญหาได้ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง