ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ศาลจังหวัดเชียงใหม่อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีของ พึ่งบุญ ใจเย็น หรือ “หมุน” ศิลปินช่างสัก วัย 40 ปี จากกรณีเขียนข้อความว่า “ประเทศทวย” ลงบนป้ายจราจรและเสาไฟฟ้า 14 จุดในตัวเมืองเชียงใหม่ช่วงปี 2563 โดยศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ฐานทำให้ทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหายหรือเสื่อมค่า
ศาลชั้นต้นเคยตัดสินเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 60,000 บาท ลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 40,000 บาท เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี และทำกิจกรรมบริการสังคม 48 ชั่วโมง ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาเมื่อ 13 มิถุนายน 2566 ยืนตามคำพิพากษาเดิม แต่ลดค่าปรับเหลือ 6,000 บาท และคืนปากกาของกลางให้จำเลย
จำเลยต่อสู้ในชั้นฎีกาว่า การกระทำของตนไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 360 และควรพิจารณาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 29 ซึ่งกำหนดบทลงโทษเฉพาะการขีดเขียนป้ายจราจรไว้แล้ว (โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท) โดยชี้ว่าการเขียนกราฟฟิตี้บนป้ายสามารถลบออกได้ ไม่ได้สร้างความเสียหายถาวร และผลจากการใช้น้ำยาลบที่ไม่เหมาะสมจนป้ายสะท้อนแสงไม่ได้ ไม่ควรนับว่าเป็นผลจากการกระทำของตน
อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยเขียนข้อความอื่นลงบนป้ายจราจรจนสื่อความหมายผิดเพี้ยน ถือว่าเข้าข่าย “ทำให้เสื่อมค่า” ตามกฎหมายแล้ว ส่วนการเลือกฟ้องตามมาตรา 360 แทนกฎหมายเฉพาะอย่าง พ.ร.บ.จราจรฯ นั้น ก็เป็นสิทธิของโจทก์ เพราะทั้งสองบทบัญญัติมีเจตนาลงโทษในทำนองเดียวกัน และเมื่อการกระทำผิดเข้าข่ายหลายบท ก็ต้องใช้บทที่มีโทษหนักสุดตามหลักกฎหมาย
ศาลยังเห็นว่าพยานโจทก์จากเทศบาล แม้ไม่เห็นเหตุการณ์โดยตรง แต่สามารถเบิกความประกอบข้อเท็จจริงได้ ส่วน พ.ร.บ.การปรับเป็นพินัยฯ ที่จำเลยอ้างอิง ไม่อาจใช้ในคดีนี้ได้ เพราะใช้กับความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวเท่านั้น
หลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกา เจ้าหน้าที่ศาลได้ควบคุมตัวพึ่งบุญไปตรวจสอบเอกสารและการชำระค่าปรับ แม้จำเลยจะได้จ่ายค่าปรับไว้ตั้งแต่หลังคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว โดยได้รับการปล่อยตัวในเวลาประมาณ 16.00 น.
สำหรับพึ่งบุญ ใจเย็น เป็นอดีตนักกีฬาลองบอร์ดทีมชาติ ประกอบอาชีพช่างสัก และมีผลงานศิลปะล้อการเมืองในพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งเป็นอาสาสมัครในกิจกรรมสังคมหลากหลาย เช่น ทำอาหารแจกคนไร้บ้าน และร่วมทำแนวกันไฟป่า โดยเขาเคยถูกดำเนินคดีจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาแล้ว 7 คดี ปัจจุบันสิ้นสุดแล้ว 4 คดี
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...