พีมูฟจัดกิจกรรม “รวมพลศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อดวงตาของพายุ” จี้ประยุทธ์ลาออก เหตุสลายการชุมนุมราษฎรหยุด APEC

23 พฤศจิกายน 2565

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) จัดกิจกรรม “รวมพลศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อดวงตาของพายุ” เข้ายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง เปิดทางตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565 จี้เอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงโดยรัฐที่ขัดหลักสากล โดยมีการยื่นหนังสือเรียกร้องในหลายจังหวัด อาทิ ชัยภูมิ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ตาก และกรุงเทพมหานคร



หนังสือดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16-18 พ.ย. 2565 ราษฎรหยุด APEC 2022 ได้จัดให้มีเวทีคู่ขนานและกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ณ ลานคนเมือง ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ เพื่อยืนยันข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และประชาคมโลก ได้แก่ 1) เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ยกเลิกนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG) รวมถึงระเบียบกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนี้ที่พยายามนำเสนอให้ที่ประชุม APEC รับรอง 2) เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ยุติบทบาทในการเป็นประธานการประชุม APEC โดยทันที และ 3) เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ยุบสภา และเปิดทางให้มีการเลือกตั้ง พร้อมกับจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งในการเคลื่อนไหวครั้งนี้พีมูฟได้เข้าร่วมเพื่อผลักดันข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา มีสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ณ เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะผ่านช่องทางการสื่อสารของสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการสลายการชุมนุมที่รุนแรง ไม่ได้สัดส่วน นำไปสู่การจับกุมคุมขังและมีการทำร้ายร่างกายในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทุบตี กระทืบ แก๊สน้ำตา และใช้อาวุธปืน (กระสุนยาง) จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย ไม่เว้นแม้กระทั่งนักข่าว มีผู้ถูกจับกุมและดำเนินคดีอย่างน้อย 25 คน และได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 30 คน และที่ร้ายแรงมากที่สุดคือการใช้ปืนจ่อยิงผู้ร่วมชุมนุมแบบซึ่งหน้า ในลักษณะของการอาฆาตมาดร้ายด้วยการยิงไปที่ดวงตาของ นายพายุ บุญโสภณ กองเลขานุการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) ในนามสมาชิก ขปส. ได้รับบาดเจ็บสาหัส และมาทราบภายหลังจากการรักษาพยาบาลของแพทย์ในเวลาถัดมาว่า นายพายุต้องสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง



“การชุมนุมดังกล่าวของราษฎรหยุด APEC 2022 และการเรียกร้องของนายพายุนั้นไม่มีพฤติการณ์ที่มีความรุนแรงแต่อย่างใด การชุมนุมดังกล่าวดำเนินไปตามสิทธิ์ที่ถูกรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ทุกประการ ในขณะที่รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับพยายามสร้างกฎเกณฑ์เพื่อไม่ให้มีการแสดงออกของประชาชนในทุกรูปแบบในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร โดยได้มีการออกประกาศห้ามการชุมนุมในช่วงการประชุม APEC สอดคล้องกับพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศที่เข้าไปคุกคามผู้นำชุมชน นักพัฒนาเอกชน และนักกิจกรรมทางสังคม จงใจปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมโดยอ้างว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ทำลายสิทธิในการมีส่วนร่วมในฐานะประชาชนผู้เป็นหุ้นส่วนการพัฒนาของประเทศ รวมถึงทำลายเสรีภาพสื่อมวลชนและสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร อันปรากฏว่ามีการทำร้ายสื่อมวลชนจนได้รับบาดเจ็บแม้จะมีการแสดงสัญลักษณ์สื่อมวลชนแล้วก็ตาม” พีมูฟกล่าว

นอกจากนั้น ราษฎรหยุด APEC 2022 จำนวน 25 คน ถูกตั้งข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มาตรา 216 และความผิดในข้อหาอื่นๆ หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในวงเงินประกันตัวคนละ 20,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเข้าร่วมชุมนุม และห้ามประกาศเชิญชวนบุคคลอื่นเข้าร่วมมั่วสุมหรือกระทำการใดๆ ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งพีมูฟเห็นว่าเป็นการดำเนินคดีเพื่อกลั่นแกล้งผู้ชุมนุมผู้เห็นต่างจากรัฐบาลอย่างไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการคืนความเป็นธรรมให้เหยื่อจากการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง พีมูฟจึงมีข้อเรียกร้อง ดังนี้

  1. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดกระบวนการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 18 พ.ย. 2565 และการคุกคามประชาชนราษฎรหยุด APEC 2022 ก่อนหน้านั้น แล้วเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา โดยปราศจากการแทรกแซงของพลเอกประยุทธ์
  2. ต้องมีกระบวนการสอบสวนและเอาผิดตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสลายการชุมนุมทั้งหมด ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาจนถึงระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ที่ปรากฏการลุแก่อำนาจ และสลายการชุมนุมอย่างไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล

  3. ต้องเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมทั้งหมด

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง