พรรคก้าวไกล เปิดตัว 7 นโยบายชาติพันธุ์ก้าวไกล เพื่อสิทธิ ความเท่าเทียมคนชาติพันธุ์ ภายใต้กระแส “เท่าเทียมกัน เท่าทันโลก” ย้ำ “ความหลากหลายของชาติพันธุ์คือจุดแข็ง ไม่ใช่จุดอ่อน”

10/08/2022

วันที่ 9 สิงหาคม 2565 พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ห้วหน้าพรรค จัดงานเปิดตัวนโยบายชาติพันธุ์ก้าวไกล ณ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


ช่วง 09.40 น. ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดิโอของเครือข่ายชาติพันธุ์ก้าวไกล ซึ่งแสดงการทำงานในประเด็นสนับสนุนสิทธิ และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของชาติพันธุ์ ก่อนที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะขึ้นพูดเกี่ยวกับเทรนด์ “เท่าเทียมกัน เท่าทันโลก” ที่กล่าวถึงการทำงานของพรรคก้าวไกล ในการผลักดันนโยบายต่างๆเพื่อความเท่าเทียมแก่ชาติพันธุ์ เช่นสุราก้าวไกล เพื่อปลดล็อคความเท่าเทียมในการประกอบอาชีพ สามารถนำผลผลิตต่างๆมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ได้ หรือนโยบายสนับสนุนสิทธิชาติพันธุ์ ที่มีความสำคัญเทียบเท่าสิทธิมนุษยชนเป็นต้น นอกจากนี้ พิธา ยังกล่าวถึงสถานะของชาติพันธุ์ในศตวรรษที่ 21 ว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแนวคิด และมุมมอง จากที่ว่าชาติพันธุ์เป็นกลุ่มคนที่ทำลายป่า เป็นกลุ่มคนที่อนุรักษ์ป่า และการผลักดันภูมิปัญหาและเศรษฐกิจชาติพันธุ์ ที่ตนถือว่ามีความล้ำสมัย สามารถเป็นจุดแข็งของประเทศในเวทีโลกได้ เช่นภูมิปัญญาไร่หมุนเวียน หรือผลิตภัณฑ์พี่น้องชาติพันธุ์ เช่นข้าวดอย เป็นต้น​


จากนั้นในช่วง 11.35 น. กลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก นำโดย ลิขิต พิมานพนา ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก ยื่นหนังสือข้อเสนอต่อพรรคก้าวไกล ชู 3 เจตนารมณ์ และข้อเรียกร้องแก้ปัญหาชาติพันธุ์อย่างถอนรากถอนโคน
สามารถติดตามรายละเอียดการยื่นหนังสือข้อเสนอได้ที่


https://www.facebook.com/lanner2022/posts/pfbid08FtcnewyzMdwvoBTFHghnuopGKVZzHYXzPzbH7xhtprK3yBxVixDgE54SXaKRutPl


ดร.เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center – ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ของพรรคก้าวไกล ได้นำเสนอนโยบายชาติพันธุ์ก้าวไกล ประกอบไปด้วย
1. นโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า เป็นหลักประกันในการดำเนินชีวิตสำหรับทุกครอบครัว ตั้งแต่เกิดจนตาย ประกอบด้วย เด็กเล็ก 0-6 ปี เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน เด็กโตและเยาวชน 7-22 ปี เงินสนับสนุน 800 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป บำนาญผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน ผู้พิการ เบี้ยยังชีพผู้พิการ 3,000 บาทต่อเดือน และการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดบ้านต่อติดเตียงอย่างถ้วนหน้า ภายใต้กรองงบประมาณ 9,000 บาทต่อเดือนต่อผู้ป่วยหนึ่งคน


2. นโยบายปลดล็อกที่ดิน ด้วยการรับรองสิทธิ์อย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว พร้อมออกเอกสารรับรองสิทธิที่ในดินที่มีความมั่นคง ประกอบด้วย การจัดตั้งกองทุนตรวจสอบข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินและออกเอกสารรับรองสิทธิในที่ดิน 10,000 ล้านบาท เพื่อพิสูจน์สิทธิและออกเอกสารสิทธิ์ให้ครบทั้งหมดภายใน 5 ปี ในการตรวจสอบข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อออกเอกสารรับรองสิทธิในที่ดิน ต้องใช้ทั้งหลักฐานของทางราชการ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางเทคโนโลยี รวมทั้งหลักฐานทางวิชาการอย่างรอบด้าน ดำเนินการออกเอกสารรับรองสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับพื้นที่ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และรับรองระบบการบริหารจัดการที่ดินของชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงในที่ดิน และสามารถเปลี่ยนการถือครองที่ดินได้ในอนาคต ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายหรือนโยบายกำหนด เอกสารรับรองสิทธิในพื้นที่อนุรักษ์ จะมีการกำหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ให้เหมาะสมกับสภาพและภูมินิเวศแห่งท้องถิ่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาความสมดุลย์ของระบบนิเวศและวัฒนธรรมของพื้นที่


3. นโยบายปลดล็อกสัญชาติและสถานะบุคคล รวมถึงการเข้าถึงสิทธิและบริการสาธารณะ เร่งพิจารณาคำร้องขอลงรายการสัญชาติไทย ที่มีอยู่จำนวน 450,000 ราย ซึ่งเป็นบุคคลที่กฎหมายบัญญัติให้มีสัญชาติไทยแล้ว ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 3 ปี โดยมีกรอบงบประมาณการดำเนินการที่ชัดเจนและเพียงพอ เร่งรัดกระบวนการกำหนดสถานะบุคคลให้แล้วเสร็จภายในเวลา 5 ปี รับรองรับสิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณะสำหรับคนทุกคนในแผ่นดินไทย โดยเฉพาะสิทธิทางสุขภาพ สิทธิทางการศึกษา และสิทธิที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตอื่นๆ


4. นโยบายการพัฒนา “เขตนิเวศวัฒนธรรมพิเศษ” ด้านชาติพันธุ์ เพื่อทำหน้าที่และบทบาทสำคัญ 5 ด้าน คือ สร้างงานและระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ผ่านระบบเศรษฐกิจ 2 ด้านคือ (ก) เศรษฐกิจสีเขียว จากการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ (ข) เศรษฐกิจวัฒนธรรมสร้างสรรค์ บนพื้นฐานอัตลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ จัดการ อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อย่างสมดุล ยั่งยืน และสร้างสรรค์ คุ้มครองและส่งเสริมพื้นที่เกษตรนิเวศน์วัฒนธรรม พื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร พื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น ไร่หมุนเวียน ป่าชุมชน ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบอย่างเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่และสภาพทางธรรมชาติ คุ้มครองสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ตามกฎหมายต่างๆ ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศ โดยเฉพาะสิทธิตามรัฐธรรมนูญ


5. นโยบายด้านการศึกษาและยกระดับวัฒนธรรมชาติพันธุ์ ให้กลายเป็น soft power โดยจะเน้นมิติที่สำคัญ 3 ด้านคือ ยึดมั่นและสนับสนุน หลักการ “คนเท่ากัน” และ “การอยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม” ของผู้คนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ สนับสนุนการศึกษาเรื่อง วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างจริงจัง ในพื้นที่การเรียนรู้ของสังคม โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาอื่นๆ แพลตฟอร์มการศึกษาในระบบออนไลน์ รูปแบบการเรียนรู้สมัยใหม่ (เช่น เกม) และการวิจัยระดับนานาชาติ ต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนฐานวัฒนธรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการออกแบบจากอัตลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ


6. นโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พรรคก้าวไกลจะสนับสนุนบทบาทขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ของชุมชนในกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะบทบาทสำคัญใน 5 ด้าน สนับสนุนงบประมาณสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะงบประมาณสำหรับ(ก) การพัฒนาระบบประปา และน้ำใช้เพื่อการเกษตร (ข) การพัฒนาพลังงานจากระบบโซลาร์เซลล์และพลังงานชุมชนแบบต่างๆ (ค) การสร้างถนนคอนกรีตหรือลาดยาง สร้างความมั่นคงทางอาหาร และการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติและโรคอุบัติใหม่ในพื้นที่ พัฒนาระบบการศึกษาและวัฒนธรรมในพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ (ตามแนวนโยบายในข้อ 5) ร่วมเป็นองค์กรหลักในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดิน สร้างหลักประกันความมั่นคงในที่ดิน และการพิสูจน์สัญชาติและสถานะบุคคลในพื้นที่ เพิ่มอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่นสามารถการร่วมออกแบบดำเนินการพัฒนาในพื้นที่เขตนิเวศวัฒนธรรมพิเศษทางชาติพันธุ์


7. นโยบายการสร้างบทบาทนำในเวทีนานาชาติ พรรคก้าวไกลยึดมั่นและมุ่งมั่น ในการรักษาและส่งเสริมสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ตามกฎหมายระหว่างประเทศและคำประกาศต่างๆ ในเวทีโลก รวมถึงสนับสนุนให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศไทยเชื่อมโยงกับเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอื่นๆ และสามารถมีบทบาทที่โดดเด่นในเวทีนานาชาติได้อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงแคนม้งโดยกรรมการชาติพันธุ์ก้าวไกล ดนตรีสด โดยปีเตอร์ อมก๋อย และการแสดงเฉลิมฉลองวันชนเผ่าพื้นเมืองสากลจากพี่น้องชาติพันธุ์ลีซู อีกด้วย


#ชาติพันธุ์ก็คือคน
#Lanner

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง