LANNER ชวนจับตา “นโยบายการศึกษา” ของแต่ละพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง 66

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านโยบายการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ที่แต่ละพรรคการเมืองมักจะชูขึ้นมาพูดอยู่ในทุกฤดูเลือกตั้ง ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษานับเป็นเรื่องที่สามารถทำให้คุณภาพชีวิตและพื้นฐานชีวิตของทุกคนดีขึ้น ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศต่อไป ทาง LANNER ขอชวนทุกคนไปดูนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะมีการแก้ไขหรือพัฒนาการศึกษาอย่างไรกันบ้าง

พรรคก้าวไกล

ชูเรื่อง “การศึกษาที่ฟรีจริง” ประกอบด้วย

– เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง

-ทุกโรงเรียนมีงบพอ

-โรงเรียนโปร่งใส ปราศจากทุจริต

“การศึกษาที่ปลอดภัย ไร้อำนาจนิยม” ประกอบด้วย

-ส้วมสะอาด อาคารสถานที่ปลอดภัย ซึมเศร้ามีที่ปรึกษา

-กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน

-ครูละเมิดสิทธิ พักใบประกอบทันที

-ยกเลิกตั้งแถว ใช้เวลาอัปเดตเหตุการณ์บ้านเมือง

“การศึกษาที่มีคุณภาพ สร้างคนให้ทันโลก” ประกอบด้วย

-ออกแบบหลักสูตรใหม่ เน้นทักษะที่ได้ใช้จริง

-ชั่วโมงเรียนดีมีคุณภาพ ลดคาบเรียน-การบ้าน-การสอบ

-โรงเรียน 2 ภาษา นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้

-เปิดข้อสอบ TCAS ย้อนหลังทั้งหมดพร้อมเฉลยทันที

“การศึกษาที่คืนครูให้ห้องเรียน คืนคุณค่าให้วิชาชีพครู” ประกอบด้วย

-คืนครูให้นักเรียน เลิกนอนเวร ลดงานเอกสาร ยกเลิกพิธีรีตองในการประเมิน-รับแขก

-นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ.

-งบอบรมให้ครู-โรงเรียน ตัดสินใจเองว่าจะเรียนรู้อะไร

“การศึกษาที่ไม่จำกัดอยู่ที่โรงเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ประกอบด้วย

-คูปองเปิดโลก สูงสุด 2,000 บาทต่อปี สำหรับเรียนรู้นอกห้องเรียน

-เรียนฟรีอาชีวะถึง ปวส. จบแล้วมีงานทำ

-แพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนฟรีไม่จำกัด รับรองคุณวุฒิพร้อมระบบจัดหางาน

“การศึกษาที่ใกล้ชิดผู้เรียน นักเรียน-ครู-ผู้ปกครองมีส่วนร่วม” ประกอบด้วย

-กระจายอำนาจให้โรงเรียน เติบโตได้ภายใต้ท้องถิ่น

-บอร์ดโรงเรียน ต้องมีตัวแทนนักเรียน

-สภาเยาวชน มาจากการเลือกตั้ง เสนอกฎหมายไปที่สภาฯ ได้

พรรคประชาธิปัตย์

-เดินหน้าต่อนโยบาย “เรียนฟรี” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2552 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

-รักษาฟรี เป็นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยให้เด็กและเยาวชนรักษาฟรี ซึ่งจะเดินหน้าต่อไปและพัฒนาให้มีศักยภาพมากขึ้น 

-จัดให้มี “นมโรงเรียนฟรี” ที่มีการเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย โดยจะเดินหน้าต่อและจะขยายให้มีนมโรงเรียนฟรี 365 วัน เพื่อสร้างคน สร้างชาติต่อไปในอนาคต 

-”อาหารกลางวันฟรี” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองในรัฐบาลที่เป็น ผู้เริ่มต้นให้เด็กได้กินอาหารกลางวันฟรี โดยปัจจุบันมีอาหารฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้น ป.6 และจะเดินหน้าต่อไป

-เด็กอายุ 0-6 ขวบ ที่ทุกวันนี้มีเงินสนับสนุนแม่ 600 บาทต่อเดือน แต่ยังได้รับไม่ทั่วถึง ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเดินหน้าต่อ และจะต้องได้รับแบบถ้วนหน้าทุกคน

พรรคชาติไทยพัฒนา

-เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน 

-ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนในทุกระดับ โดยเฉพาะอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อให้เยาวชนทำงานเป็น และมีรายได้ ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมโลกมีความรู้ความชำนาญเฉพาะทางอย่างแท้จริงตามความต้องการของตลาดหารจ้างงาน และเป็นอนาคตของชาติ เพื่อพัฒนาประเทศ สร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

พรรคเพื่อชาติ

-ผลักดันเงินเดือนอาชีวะ เทียบเท่าปริญญาตรี 

-ยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพ 

-ครูอัตราจ้างควรได้เงินเดือนตามวุฒิการศึกษา 

-ลดเด็กหลุดจากการศึกษาจากปัญหาเศรษฐกิจ 

-กยศ. ปลอดดอกเบี้ย จบแล้วมีงานทำ 

-ปฏิรูป กศน. สะสมหน่วยกิต เพิ่มโอกาส ต่อยอดสร้างอาชีพ

-ยกระดับความสำคัญสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพให้เป็นกลไกยืนยันความเชี่ยวชาญวิชาชีพที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองอาชีพเกิดขึ้นใหม่ในยุคปัจจุบัน 

-ปรับโครงสร้างอาชีวะ ทั้งงบประมาณและการจัดหลักสูตร 

-กระทรวงศึกษาหาเงินได้ ความรู้คือทุน เน้นขายลิขสิทธิ์นวัตกรรมและสิทธิบัตรการศึกษา

-โรงเรียนปลอดภัย กาย ใจ ลดระบบแพ้คัดออก ระบบที่ทำร้ายจิตใจและคุณค่าในตัวเด็ก เพราะทุกคนมีศักยภาพ ทุกคนสามารถทำเพื่อชาติได้ในแบบของตนเอง 

-Family Group Day Care สร้างพื้นที่รับฝากเลี้ยงลูกปลอดภัยประจำชุนชน 

-ยกเลิกชุดนักเรียน ปรับโรงเรียนละเมิดกฎกระทรวง และ เพิ่มคุณภาพ เพิ่มงบอาหารกลางวันทุกโรงเรียน

พรรคเพื่อไทย

-ภายในปี 2570 กระจายอำนาจการศึกษาอย่างประเทศที่เจริญ

-มีโรงเรียนสองภาษาในทุกท้องถิ่น สอนภาษาต่างประเทศตั้งแต่ ป.1 เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน (มีครูต่างชาติมาสอนเสริมร่วมกับครูไทย)

-จัดการเรียนให้อยู่ในรูปแบบห้องเรียนและออนไลน์

-จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด

-ใช้ Soft Power ด้วยการจัดอบรมฟรีเพื่อพัฒนาศักยภาพอย่างน้อย 1 คนในครอบครัวจนโดดเด่นและจะสนับสนุนทุนฝึกอบรมต่อในต่างประเทศ

พรรคไทยสร้างไทย

-เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ลดระยะเวลาการเรียนลงอีก 2-3 ปี เพื่อเพิ่มโอกาสการทำมาหากินของเยาวชนให้เร็วขึ้น เพื่อให้ทันโลกยุคใหม่ที่เน้นเรียนเฉพาะวิชาที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ โดยยังคงวิชาที่ “ต้องเรียน” ไว้ และพิจารณาตัดหรือให้วิชาที่ “ควรเรียน” เป็นวิชาเลือกเสรีแทน และเป็นการลงทุนในการยกระดับคุณภาพการศึกษาด้านการเรียนการสอน ปรับหลักสูตรความรู้ของโลกยุคใหม่

พรรคชาติพัฒนากล้า 

-เพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทำงานมากขึ้น ประเทศไทยต้องเรียนรู้หลายภาษา

-“1 จิตแพทย์ ต่อ 1 สถาบันการศึกษา” ตั้งแต่ประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย เพื่อแก้ปัญหาเยาวชน ที่ต้องเจอ แรงกดดันจากสังคม ครอบครัว สถาบันการศึกษา ภาวะโรคซึมเศร้า หรือแม้แต่ความคิด ความพยายามที่จะฆ่าตัวตาย

พรรคสร้างอนาคตไทย

-สนับสนุนคนเก่งด้วยการตั้ง “กองทุนการศึกษาพัฒนาบ้านเกิดเต็มพื้นที่” ส่งเสริมคนเก่งให้ได้เรียนสูงสุดถึงปริญญาเอก มีเงื่อนไขเพียงแค่ต้องเป็นสาขาที่ตอบสนองการพัฒนาพื้นที่บ้านเกิด

ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย, พรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีการพูดถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และหวังว่าในเร็ววันนี้จะถูกพูดถึง

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง