Home Blog Page 207

HRDF และตัวแทนกลุ่มแรงงานข้ามชาติและแรงงานไร้สัญชาติ แถลงข่าวและยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ม.33 เรารักกัน

27/05/2022

27 พฤษภาคม เวลา 13.30 น. ณ ศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ตัวแทนมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา HRDF และตัวแทนกลุ่มแรงงานข้ามชาติและแรงงานไร้สัญชาติ ได้แถลงข่าวและยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ม.33 เรารักกัน พร้อมแนบรายชื่อผู้สนับสนุนการฟ้องทั้งหมด 2,198 รายชื่อ​

สืบเนื่องจากกรณี โครงการ “ม.33 เรารักกัน” ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชย ให้แก่ภาคประชาชนฯ ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พ.ศ.2563โดยการเสนอของกระทรวงแรงงาน ได้รับการอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อกำหนดให้ผู้มีสิทธิตามโครงการฯเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่มี “สัญชาติไทย” เท่านั้น ส่งผลให้ผู้ประกันตนที่ “ไม่มีสัญชาติไทย” ไม่มีสิทธิรับการช่วยเหลือเยียวยา แม้เป็นผู้ประกันตน และได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดเช่นเดียวกับผู้ประกันตนที่มีสัญชาติไทย ตัวแทนผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติจึงดำเนินการร้องเรียนความไม่เป็นธรรมกรณีโครงการ ม.33 เรารักกัน เลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติขัดต่อกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ภายหลัง ผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยว่าโครงการ “ม.33 เรารักกัน” มิได้ขัดต่อ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 27 วรรคสาม ได้บัญญัติห้ามมิให้เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะความแตกต่างในเรื่อง “เชื้อชาติ” เท่านั้น มิได้หมายรวมถึง “สัญชาติ” ดังนั้น การที่โครงการฯ กำหนดคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิไว้ว่าต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้นจึงมิได้มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพราะความแตกต่างในเชื้อชาติ แต่ทั้งนี้ ตัวแทนผู้ประกันตนฯ ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าวจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าโครงการ ม.33 เรารักกัน ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564​

ต่อมา 10 มกราคม 2565 ตัวแทนผู้ประกันตนฯ ได้รับแจ้งคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา โดยแจ้งว่าโครงการ “ม.33 เรารักกัน” เป็นโครงการตามมติคณะรัฐมนตรี กรณีความรับผิดของหน่วยงานทางปกครองอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายที่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลอื่น ด้วยเหตุนี้ตัวแทนผู้ประกันตนฯ จึงจะดำเนินการต่อไปโดยการยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ “ม.33 เรารักกัน” ที่มีส่วนร่วมในการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิตามโครงการฯที่ต้องมี “สัญชาติไทย” เท่านั้น เพื่อขอให้ศาลปกครอง ที่มีอำนาจอิสระ ตามแบบแม่บทประชาธิปไตย ในการพิจารณาและมีคำพิพากษาเพิกถอนการกระทำที่มีการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลละเมิดสิทธิมนุษยชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง และกฎหมายสิทธิมนุษยชนมนุษยชนระหว่างประเทศ เพื่อให้สร้างบรรทัดฐานทางสังคม (Social Norms) ที่ให้มีการเคารพหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ และสร้างรากฐานหลักการแบ่งแยกอำนาจที่มิยอมให้มีองค์กรหนึ่งองค์กรใดใช้อำนาจของรัฐ (นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ) เพียงองค์กรเดียว​

ทั้งนี้ทางมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา และตัวแทนกลุ่มแรงงานข้ามชาติและแรงงานไร้สัญชาติ ขอขอบคุณสื่อและมวลชนที่มาร่วมให้กำลังใจในการแถลงข่าวและยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ม.33 เรารักกันในครั้งนี้​



#อย่าทิ้งให้แรงงานข้ามชาติเดียวดาย​
#ม33เรารักกันแต่ฉันถูกลืม​
#Lanner

ยืนหยุดทรราชll สัปดาห์ที่ 2​

07/05/2022

วันนี้ 7 พฤษภาคม 2565 เวลา 17.00-18.12 น. กลุ่มพลเมืองเสมอกัน We, The People ได้จัดกิจกรรม #ยืนหยุดทรราชll บริเวณ ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยการยืนหยุดทรราชในครั้งนี้เป็นการยืนในสัปดาห์ที่ 2 ​

จุดประสงค์หลักของการยืนหยุดทรราชในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่รัฐได้มีการคุมขังประชาชนในระหว่างการสอบสวนและไม่มีสิทธิในการประกันตัว เพื่อเรียกร้องในเรื่องของสิทธิประกันตัวที่เป็นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองตามหลักสิทธิมนุษยชน​

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เก็ท โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักศึกษาวัย 23 ปี จากภาควิชารังสีเทคนิค คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล สมาชิกกลุ่ม โมกหลวงริมน้ำ ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 ในคดีมาตรา 112 จากเหตุปราศรัย #ทัวร์มูล่าผัว โดยในตอนนี้ มีผู้ต้องขังทางการเมือง ทั้งหมด 11 คน​

กิจกรรม #ยืนหยุดทรราชll จะจัดอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 17.00-18.12 น. ที่ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องจนกว่าประชาชนที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัว​



ภาพ: Jarik Krobtong​

#หยุดละเมิดสิทธิประกันตัว​
#ยกเลิก112

“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เราจะเห็นว่าฝ่ายที่มีอำนาจหรือผู้ที่ถืออำนาจรัฐนั้นได้ใช้วิธีการที่รุนแรง ไม่มีจริยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง

07/05/2022

เนื่องจากว่ากระแสของผู้ที่รักความเป็นธรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศขานรับอย่างมากมายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ปล่อยผู้ที่บริสุทธิ์ทั้งหมด จากกระแสที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องจนทำให้ฝ่ายอำนาจรัฐนั้นต้องผ่อนสั้นผ่อนยาว แต่ว่าเมื่อปล่อยออกมาแล้วนั้นแล้วก็คิดว่าเขาจะสามารถควบคุมทำให้เข็ดขยาดได้​

รัฐพยายามที่จะกำราบปราบปรามลงโทษโบยตี ใช้วิธีการในการอุ้มจับขัง อ้างสาเหตุต่างๆ นานาเพื่อที่จะทำลายล้างขบวนการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ แต่หารู้ไม่สิ่งที่ทำลงไปนั้นมันเป็นการประจานความชั่วร้ายของตัวเค้าเอง ยิ่งทำให้คนทั้งหลายที่มีจิตใจเป็นกลางที่อาจจะมีเรื่องของมนุษยธรรมอยู่บ้างนั้น เอนเอียงเข้าหาคนรุ่นใหม่และผู้มีหัวใจประชาธิปไตย ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผู้ที่มีจิตใจรักความเป็นธรรมนั้นไม่สามารถรับได้ มันเกินขอบเขตเกินความพอดีไปมาก ใช้ทุกอย่างที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องมือเพื่อที่จะทำลายความคิดที่บริสุทธิ์และจริงใจเพื่อที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ​

ฉะนั้นเราในฐานะคนร่วมชะตากรรมที่ไม่เท่าเทียมเหมือนกันก็ไม่สามารถทนนิ่งดูรายได้ ก็ออกมารวมตัวกันเพื่อที่จะเป็นปากเสียงหนึ่งในการที่จะขับเคลื่อนให้เกิดความเท่าเทียม ให้ทุกๆ คนที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ถูกกระทำนั้นได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง”

สินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย​
ศิลปิน​

กิจกรรม #ยืนหยุดทรราชll ​ โดยกลุ่มพลเมืองเสมอกัน We, The People จะจัดอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 17.00-18.12 น. ที่ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องจนกว่าประชาชนที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัว​

ภาพ: วรรณา แต้มทอง​

#หยุดละเมิดสิทธิประกันตัว​
#ยกเลิก112

ชวนจับตา “คดีการเมือง” ในภาคเหนือช่วงเดือนพฤษภาคมนี้​

06/05/2022

ในเดือนพฤษภาคม 2565 ชวนติดตามสถานการณ์การดำเนินคดีจากการชุมนุมและแสดงออกทางการเมืองที่สืบเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวในช่วงปี 2563-2564 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีคดีที่มีวันนัดของศาลในเดือนนี้ ได้แก่​

1. คดีมาตรา 112 ของ “รามิล” ศิวัญชลี นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรณีแสดง Performance Art เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ที่หน้าป้ายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เวลา 9.00 น.​

2. คดีคาร์ม็อบจังหวัดกำแพงเพชร มีอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ อดีตผู้สมัคร นายก อบจ. กำแพงเพชร ของคณะก้าวหน้า ถูกฟ้องเป็นจำเลยในข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ​ ศาลจังหวัดกำแพงเพชรนัดสืบพยานคดีนี้ในวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2565 ตลอดทั้งวัน​

3. คดีดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ของพึ่งบุญ ใจเย็น ศิลปินช่างสัก กรณีตะโกนด่าตำรวจในระหว่างการชุมนุมที่ข่วงประตูท่าแพ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ศาลแขวงเชียงใหม่นัดสืบพยานคดีนี้ในวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2565 ตลอดทั้งวัน​

4. คดีมาตรา 112 กรณี 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่แสดงงานศิลปะคล้ายธงไม่มีสีน้ำเงิน ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 เวลา 9.00 น. ​

โดยสามารถติดตามคดีได้ที่ศาลตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว รวมถึงติดตามการรายงานความคืบหน้าของคดีต่าง ๆ ได้ที่เพจศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ Lanner​

#lanner​
#คดีการเมือง

นิติศาสตร์ มช. จัดบรรยายพิเศษ “ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง” ปฐมนิเทศนักกฎหมายใหม่ทั่วประเทศ โดยอานนท์ นำภา

05/05/2022

วันนี้ 5 พฤษภาคม เวลา 15.00 น. คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดบรรยายพิเศษ “ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง” อุดมคติ ประสบการณ์ และโลกแห่งความเป็นจริงจากมุมมองของนักกฎหมายคนหนึ่ง โดยอานนท์ นำภา ทนายสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นการปฐมนิเทศนักกฎหมายใหม่ทั่วประเทศ รวมถึงนักศึกษาที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ในคณะนิติศาสตร์ รวมไปถึงผู้ที่กำลังเข้าสู่วิชาชีพกฎหมาย รวมไปถึงคนที่อยู่ในแวดวงวิชาการและวิชาชีพกฎหมาย เพื่อค้นหาความเป็นจริงของกฎหมายในสังคมไทย

ก่อนเริ่มการบรรยาย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นัทมน คงเจริญ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวเปิดโดยมีใจความสำคัญ ตั้งคำถามถึงการเข้ามาเรียนกฎหมาย
“เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมจึงมาเรียนกฎหมาย คิดว่าจะร่ำรวย คิดว่าจะมีเกียรติ หรือคิดว่าจะผดุงความยุติธรรม อย่างนั้นหรือ หลายคนฝันใฝ่ตามทางที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่ว่าจะหวังไว้อย่างไร อยากจะชวนทุกท่านที่ฟังที่ชมอยู่ในขณะนี้ ว่าความหวังเหล่านี้เป็นจริงได้อย่างนั้นหรือ ความจริงในแวดวงกฎหมายของไทยที่เป็นอยู่นั้นเป็นอย่างไร หลักการทางกฎหมายที่เราร่ำเรียนมา มันปรากฎขึ้นเป็นจริงในสังคมไทยมากน้อยเพียงใด ในวันนี้ได้รับเกียรติอย่างยิ่ง จากทนายน้อยๆ ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุด นักกฎหมายที่สั่นสะเทือนวงการกฎหมายไทยอย่างยิ่งยวด คำกล่าวนี้ ไม่เกินจริงเลย ไม่ว่าผู้ที่พบเจอ ถ้าไม่รักเขา ไม่ศรัทธาเขา ​ ก็เกลียดและกลัวเกรงอิทธิพลของเขาเหละ ในชั่วโมงนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักทนายอานนท์ นำภา อุดมคติ ประสบการณ์ และโลกแห่งความเป็นจริงจากมุมมองของนักกฎหมายคนหนึ่ง”​

“ผมว่าอานนท์ มีคุณสมบัติสำคัญอยู่ 3 ประการสำคัญที่ทำให้สิ่งที่เขาจะพูดในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ และชวนให้นักกฎหมายได้คิดถกเถียงแลกเปลี่ยนกันในอนาคต ประการแรกอานนท์เป็นนักกฎหมายที่เก่งมาก เขาเริ่มทำคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนตั้งแต่แรกเริ่มทำงาน ประเด็นที่ 2 อานนท์ เป็นทนายที่มีประสบการณ์ในการว่าความมากที่สุด ถ้าเทียบกับนักกฎหมายรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาตั้งสำนักงานทนายความกองทุนราษฎรประสงค์ เพื่อรับทำคดีการเมือง ทำคดีชาวบ้านโดยเฉพาะ ประการที่ 3 อานนท์ก้าวข้ามพรมแดนของนักกฎหมายไปสู่นักเคลื่อนไหวทางสังคม เขาเชื่อมโยงบทบาทของนักกฎหมายกับขบวนการเคลื่อนไหว ซึ่งก็นำมาสู่การที่รัฐใช้กฎหมายเล่นงานเขา ถูกเปลี่ยนฐานะจากทนาย กลายเป็นจำเลย ใช้ชีวิตในเรือนจำกว่า 6 เดือน อานนท์จึงมีความเหมาะสมสำหรับการชวนคุยกับนักกฎหมายที่สนใจสังคม การพูดคุยถึงศักยภาพและข้อจำกัดของกฎหมายและนักกฎหมายในการเปลี่ยนแปลงทางสังคม”​
สงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวในช่วงแรกของการบรรยาย

อานนท์ได้กล่าวถึงบริบทและเงื่อนไข ว่าตนถูกศาลวินิจฉัยว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ล้มล้างการปกครอง จากการลุกขึ้นมาพูดเรื่องสถาบัน ปัจจุบันนี้ถูกสภาทนายความตั้งเรื่องเพิกถอนการว่าความจากการปราศัยเรื่องปฏิรูปสถาบัน ณ วันนี้ตนได้รับการประกันตัวจากคดี 112 จาก 12 คดี โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามพูดถึงสถาบันและศาล รวมถึงห้ามไปในที่ชุมนุม และถูกจำกัดการเดินทาง​

“ผมพูดในบรรยากาศที่คนรุ่นใหม่ถูกจองจับ 11 คน มีนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยถูกคุมขัง และมีอีกหลายคนที่กำลังจะโดนเพิกถอนการประกันตัว หลายคนถูกควบคุมด้วยคำสั่งศาลว่าห้ามเข้าร่วมชุมนุม ตอนนี้ผมเองก็ยังใส่กำไลเท้า EM “​

“คนรุ่นใหม่เห็นภาพสังคมที่เสมอภาค มีสิทธิทางพลเมืองที่เท่าเทียมกันแล้ว แต่ยังไม่สามารถขายฝันนี้ให้ชนชั้นนำไทย รวมถึงนักเรียนนายร้อย พ่อแม่ผู้ปกครอง นักการเมือง พรรคการเมืองได้ คนที่ติดคุกในตอนนี้เขาก็ฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง ตะวันได้ประกาศอดอาหาร เพื่อประท้วงกระบวนการยุติธรรม และตอนนี้เก็ท (โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง) ก็ประกาศอดอาหารเพื่อประท้วงด้วยเช่นกัน คนรุ่นใหม่เหล่านี้เกิดและเติบโตมาในยุคที่เขาต้องท่องค่านิยม 12 ประการ แต่เขาก็ออกมาต่อต้าน อยากให้คนที่เรียนกฎหมายได้ศึกษาแนวคิดของพวกเราไปด้วย”​

ทั้งนี้ เนื้อหาสาระสำคัญที่อานนท์ได้มาบรรยายก็คือประสบการณ์ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนกฎหมาย การทำกิจกรรมนักศึกษา เป็นทนายในประเด็นสิทธิมนุษยชน ทำคดีการเมือง รวมทั้งการปราศัยปฏิรูปสถาบัน จนนำมาสู่การมีคดีความของตน นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสังคม รวมไปถึงเรื่องของนักกฎหมายที่ออกมาร่วมต่อสู้ ​

“เราได้เห็นการรวมตัวของนักกฎหมายที่ออกมาทำงานเรื่องสิทธิ เห็นทนายอาวุโสออกมาว่าความร่วมกับน้องๆ เห็นคนในกระบวนการยุติธรรมที่อยู่ข้างเรา คนที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวกับเราอยู่ข้างเรา”​

โดยสาระสำคัญที่ยังไม่ได้กล่าวถึงจะถูกหยิบยกมาพูดถึงที่เพจ Lanner อีกครั้งแบบละเอียด​

#lanner​
#อานนท์นำภา

เชิญชวนรับชม Facebook Live 🔴 บรรยายพิเศษ “ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง” อุดมคติ ประสบการณ์ และโลกแห่งความเป็นจริงจากมุมมองของนักกฎหมายคนหนึ่ง

04/05/2022

ขอเชิญนักกฎหมายใหม่ทั่วประเทศที่กำลังเริ่มต้นเส้นทางชีวิตทางด้านกฎหมายร่วมรับฟังการปฐมนิเทศจากอานนท์ นำภา ทนายสิทธิมนุษยชน​

ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสามารถรับชมการบรรยายครั้งนี้แบบสด ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ได้ที่ Lanner ตามวันและเวลาเดียวกัน​

#lanner
#อานนท์นำภา

“การยืนหยุดทรราชมันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราสามารถที่จะแสดงออกได้ เราเห็นเหตุการณ์ที่มันไม่ปกติ ไม่เป็นธรรม

04/05/2022

แล้วก็เห็นคนที่โดนกระทำมันเหมือนโดนกลั่นแกล้ง ทุกคนที่โดนก็ยังเป็นเด็กๆ เป็นเหมือนลูกหลานเรา มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศเรา ว่าแบบอะไรวะ นี่แค่การแสดงออกทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นเองก็ยังสามารถเอาผิดได้แบบไม่แคร์เหตุผลอะไรเลย​

โทษที่ได้รับมันก็เยอะมาก มันหนักไปสำหรับเด็กๆ มันคือการเอาอนาคตของชาติไปกักขังทำไมถึงทำกันขนาดนี้ อนาคตของชาติยังมีประโยชน์ที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างที่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้ คือการแสดงออกไม่ผิดเป็นสิทธิเสรีภาพ สิ่งสำคัญที่ผู้มีอำนาจควรทำก็คือต้องรับฟังใช่ไหม รับฟังต้องมีการพูดคุยแล้วก็แลกเปลี่ยนไม่ใช่แบบว่าตัดช่องน้อยแต่พอตัวเลยคือว่าพูดไม่เข้าหูเอามันเข้าไปขังอะไรอย่างนี้เลยมันจะได้ไม่พูดไม่ทำอะไรอย่างนี้อีก​

การยืนหยุดทรราชเป็นสิ่งเดียวจริงๆ นะที่เราทำได้ในตอนนี้ เราก็เป็นคนทำงานแบบหาเช้ากินค่ำ อาจจะไม่มีเวลาออกไปเคลื่อนไหวซึ่งๆ หน้า เหมือนแบบเด็กๆ คนรุ่นใหม่ ที่เขาออกไปเป็นหน้าด่านอะไรแบบนี้ แอคชั่นอะไรที่มันอยู่ในพื้นที่เรา แล้วมันเป็นสิ่งที่แบบว่าเราทำได้เราก็พร้อมที่จะมา​”

พรพิศ ผักไหม
แม่ค้า​

กิจกรรม #ยืนหยุดทรราชll ​ โดยกลุ่มพลเมืองเสมอกัน We, The People จะจัดอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 17.00-18.12 น. ที่ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องจนกว่าประชาชนที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัว​

ภาพ: วรรณา แต้มทอง​

#หยุดละเมิดสิทธิประกันตัว​
#ยกเลิก112

ตำรวจบุกบ้านนักกิจกรรมอุตรดิตถ์ปลดแอก ถ่ายรูปรถ บ้าน เช็คความเป็นอยู่​

03/05/2022

วันนี้ 3 พฤษภาคม เพจอุตรดิตถ์ปลดแอกได้โพสต์ว่าเมื่อช่วง 07.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังบ้านของ 1 ในสมาชิกกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่า มาตรวจความเรียบร้อยทั่วไปตามหน้าที่ เนื่องจากเป็นตำรวจสายตรวจ โดยเจ้าได้ที่ตำรวจได้ทำการ​

ได้ทำการถ่ายรูปรถ บ้าน และสอบถามว่าบ้านหลังนี้อยู่กันกี่คน โดยทางสมาชิกกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอกได้ขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ารูปที่ถ่ายมีเพียงแค่บ้านและรถของสมาชิกกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอก โดยเจ้าหน้าที่พยายามเบี่ยงเบนที่จะไม่ลบรูปภาพที่ถ่ายไว้ จนสมาชิกกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอกได้ทำการถ่ายคลิปวีดีโอเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานการคุกคาม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมลบรูปภาพที่ถ่ายไว้ทั้งหมด​

ด้านกลุ่มอุตรดิตถ์ปลดแอกให้ความเห็นเอาไว้ว่าการกระทำแบบนี้ตอกย้ำความเชื่อของประชาชนว่าไม่สามารถไว้วางใจตำรวจได้ และการกระทำลักษณะนี้เป็นการคุกคามประชาชน โดยได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดทำพฤติกรรมในลักษณะนี้​

จากการตอบถามเพิ่มเติมจากสมาชิกอุตรดิตถ์ปลดแอกได้ความเห็นว่า “รอบนี้เจ้าหน้าที่ไม่แสดงอำนาจ มาแบบงงๆ ตอบคำถามอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง พูดซ้ำไปมา มือไม้สั่น เหมือนไม่ได้เตรียมตัวมา มาแบบลับๆ ล่อๆ จอดรถไว้เยื้องหน้าบ้าน เดินย่องๆ เข้ามาในบ้าน มาถ่ายรูป ถ้าไม่มีคนในบ้านมาเห็นก็คงเดินออกไปแบบเงียบๆ ส่วนตัวมองว่าถ้าจะมาก็เข้ามาคุยแบบตรงไปตรงมาดีกว่า ไม่ใช่ลับๆ ล่อๆ แบบนี้”​

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 เมษายน อัยการจังหวัดอุตรดิตถ์สั่งฟ้องคดี พรก.ฉุกเฉินฯ นายอนุรักษ์ แก้ไข อายุ 25 ปี พ่อค้าขายผลไม้ เหตุเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบอุตรดิตถ์ปลดแอก เมื่อ 15 สิงหาคม 2564 โดยนายอนุรักษ์คับข้องใจว่าทำไมถึงถูกดำเนินคดีคนเดียว ตนเป็นเพียงผู้เข้าร่วมกิจกรรม ก่อนศาลให้ประกันวางเงินจำนวน 20,000 บาท และตนพร้อมสู้คดี (ข้อมูลจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน https://bit.ly/37XY4oM )​

#Lanner

เครือข่ายแรงงานภาคเหนือยื่นข้อเรียกร้องเนื่องในวันกรรมกรสากล ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่​

03/05/2022

วันนี้ 3 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. เครือข่ายแรงงานภาคเหนือยื่นข้อเรียกร้องเนื่องในวันกรรมกรสากล ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม เครือข่ายแรงงานภาคเหนือ ได้จัดกิจกรรม Worker Fest “เราทุกคน คือ คนงาน” ณ ข่วงประตูท่าแพ เชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชูข้อเรียกร้องของเครือข่ายทั้ง 11 ข้อ รวมถึงข้อเรียกร้องเพื่อค้นหาแนวทางการแก้ปัญหาและส่งเสริมคุณค่าความสำคัญของคนงาน 7 ข้อ โดยภายในงานมีซุ้มกิจกรรม และการแสดงจากภาคีเครือข่ายอีกด้วย​

โดยในวันนี้ทางเครือข่ายแรงงานภาคเหนือได้นัดรวมตัวเพื่อยื่นข้อเรียกร้อง ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีตัวแทนจาก สำนักงานแรงงานจังหวัดเชียงใหม่, สำนักจัดหางาน, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม มารับข้อเรียกร้องของเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ​

สามารถอ่านข้อเรียกร้องเนื่องในวันกรรมกรสากล 2022 ของเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ ได้ที่ https://www.facebook.com/lanner2022/photos/a.114367541256198/115009857858633/​

#lanner
#เครือข่ายแรงงานภาคเหนือ
#วันกรรมกรสากล