Home Blog Page 199

ล้านนาหน้าฝน​

01/06/2022

ต้นไม้เขียวงาม ที่กำลังแตกผลิยอดใบอ่อน เหมือนกำลังส่งเสียงเชื้อเชิญให้เดินผ่าน เหมือนต้นไม้นับพัน หมื่น แสน ช่วยกันทำให้อากาศราวเจ็ดโมงครึ่ง วันอาทิตย์ ปลายเดือนพฤษภาคม เย็นสบายยิ่งขึ้น การเดินสบายๆ บนทางเดินเล็กๆ ที่แยกเข้าสู่แนวป่า จากข้างถนน ห่างจากเขตวัดพระธาตุดอยคำทางทิศใต้ ประมาณหนึ่งร้อยเมตร จึงรื่นรมย์ยิ่ง ​
ฝนห่าใหญ่ที่เทกระหน่ำมาหลายหน ทำให้พื้นดินชุ่มน้ำ ต้นไม้ ใบหญ้าระริกระรี้ เห็ดนานา ดอกกระเจียวป่า และแมลงหลายชนิด เหมือนเจตนาออกมาทักทายผู้เดินทางผ่าน เสียงจิ้งหรีด จักจั่น และนกน้อยใหญ่ ก็ช่วยขับกล่อมให้ยามเช้าของป่า ใต้ฟ้าสดสว่าง กระจ่างงามยิ่งขึ้น​

ระยะทางราว 5 กิโลเมตร เดินลัดเลาะแนวเดินในป่า เข้าเขต ’บ้านบนสามัคคี’ เดินต่ออีกราว 2 กิโลเมตร ก็ถึงวัดอรัญญาวาส (วัดบ้านปง) เส้นทางเดินเท้าเรียบโล่ง เดินสบาย เพราะชาวบ้านละแวกนั้นใช้เดินทางไปมาเสมอ เพื่อหาของป่า หน่อไม้ เห็ด ผักหวานป่า แมลงนานาที่จะเลี้ยงชีพได้ หรือสัญจรผ่าน เพื่อการหลบลี้หนีจากการใช้ยวดยานพาหนะ ออกกำลังกาย หายใจสูดไอดิน กลิ่นป่า ให้เลือดในกายได้สูบฉีดไหลเวียนดียิ่งขึ้น ​

“ถ้านักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยทั่วจังหวัด ปลูกต้นไม้ให้เชียงใหม่คนละต้น ปีหนึ่งๆ จะได้ต้นไม้นับหมื่นต้นเลยนะ” ​

“จะปลูกที่ไหนล่ะ”​

“ประสานกับหน่วยงานรัฐ หาพื้นที่ปลูกได้ไม่ยากหรอก ถ้าปลูกไม้ดอก สี่ปีก็ออกดอกแล้ว ไม้ผล สี่ปีก็คงออกผลแล้วเช่นกัน”​

“…”​

“พอขึ้นปีสอง สาม สี่ จนเรียนจบ ทำงานแล้ว ก็กลับไปดูต้นไม้ที่ปลูกไว้ให้เชียงใหม่ มีครอบครัวแล้ว ก็พาคู่ชีวิต พาลูกมาดูต้นไม้นั้นได้ จะน่าภูมิใจมากไหม ที่เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เชียงใหม่ได้แบบนั้น”​

“…”​

“ช่วงวันหยุด ชวนนักศึกษาชวนกันมาเดินป่า สำรวจธรรมชาติ เลี่ยงห้าง เลี่ยงสังคมออนไลน์กันบ้าง ก็น่าจะดี”​

ฉันนึกถึงบทสนทนากับเพื่อนผู้ร่วมเดินป่านับสิบคน ทั้งในคราวนี้ และครั้งก่อนๆ ในพื้นที่อื่น นึกถึงโครงการที่เคยริเริ่ม เชิญชวนนักศึกษา คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ราว 300 คน จากคณะศึกษาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ปลูกต้นไม้ราว 900 ต้น ในเขตคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่เหียะ เมื่อปี 2562 เป็นครั้งแรก​

สถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มระบาดเมื่อต้นปี 2563 ทำให้โครงการชักชวนนักศึกษา และผู้สนใจปลูกต้นไม้ต้องชะงักงันไป จนปี 2565 ในวาระครบรอบ 144 ปี ชาตกาลครูบาเจ้าศรีวิชัย โครงการปลูกต้นไม้ให้เชียงใหม่ จึงมีโอกาสกลับมาอีกหน เป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการจรัลรำลึก, มูลนิธิสถาบันครูบาเจ้าศรีวิชัย, วัดพระธาตุดอยสุเทพ, เทศบาลตำบลสุเทพ, นักศึกษาสาขาวิชาหลักสูตรและการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสมาชิกชุมชนในพื้นที่ จะร่วมกันปลูกต้นพญาเสือโคร่ง 144 ต้น หลังแนวบันไดนาคทั้งสองด้าน ที่ทอดขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ภายใต้โครงการ “จรัลรำลึก ตวยฮอยครูบา บูชาพระธาตุ”​

หลังเดินไปด้านหลังวัด ​ ลัดเลาะขึ้นไปตามบันไดซีเมนต์ 900 ขั้น ขึ้นไปสักการะ โลหะปราสาท ‘พระธาตุเจดีย์ศรีเมืองปง’ โลหะประสาทแห่งที่ 4 ของโลก แต่เป็นทรงล้านนาแห่งแรก ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาหลังวัดอรัญญาวาส อำเภอหางดง ชาวคณะเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม กลับสู่ที่จอดรถหน้าวัดพระธาตุดอยคำ ระยะทางเดินเท้าทั้งหมด 14 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมงเศษ ​

“ถ้าได้กำหนดวันปลูกต้นไม้แน่นอนแล้ว จะแจ้งอีกครั้งเน่อเจ้า” ฉันบอกผู้ร่วมคณะเดินป่า ที่สนใจจะร่วมปลูกต้นพญาเสือโคร่ง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ในการเดินป่าทุกเช้าวันอาทิตย์อีกไม่เกินสามสี่ครั้ง ฉันน่าจะได้แจ้งกำหนดวันกับผู้สนใจ ปลูกต้นไม้ ชื่อพ้องกับปีเสือ ปีเกิดของครูบาศรีวิชัย ตนบุญผู้เป็นที่เคารพนับถือของชาวล้านนามาต่อเนื่องกว่าหนึ่งศตวรรษ ​

เรื่อง: เปีย วรรณา​
ภาพ: มีทา มาส์ต​

ติดตาม “ด้วยฮักจากล้านนา” ความเรียงบอกเล่าเรื่องราวปกิณกะจากแผ่นดินล้านนา โดย เปีย วรรณา ได้ทาง Lanner เป็นประจำทุกเดือน​

Lanner เปิดพื้นที่สำหรับงานสื่อสารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ งานวิชาการ ความเรียง เรื่องสั้น บทกวี สารคดี photo essay ที่บอกเล่าเรื่องราวทางสังคมต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถส่งมาได้ที่ lanner.editor@gmail.com ร่วมสร้างพื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าไปด้วยกัน ​

#lanner

กะเบอะดิน แมแฮแบ

01/06/2022

“กะเบอะดิน​
ฉันได้ยิน​
เสียงหัวเราะของสายน้ำ​

กะเบอะดิน​
ฉันรับรู้​
ลมหายใจบนไหล่เขา​

กะเบอะดิน​
ฉันทักทาย​
รอยยิ้มของผืนดิน​

กะเบอะดิน​
แมแฮแบ​
ไม่เอาเหมืองแร่ถ่านหิน​

สายน้ำติดเชื้อ​
อากาศเคล้าผงถ่าน​
กะเบอะดินไม่ต้องการ​

แม่น้ำหนึ่งสาย​
กลายเป็นหลายลำห้วย​
หล่อเลี้ยงหลากชีวิต​

โลกเพียงหนึ่งใบ​
กินดื่มจากสายน้ำเดียวกัน​
อย่าให้สิ่งใดปนเปื้อนผืนดิน​

กะเบอะดิน แมแฮแบ​
ไม่เอาเหมืองแร่ถ่านหิน​
หวังว่าคุณทั้งหลายคงจะได้ยิน”
(กะเบอะดิน แมแฮแบ” เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่า “กะเบอะดิน ไม่เอาเหมืองแร่ถ่านหิน” ถ้อยคำคัดค้านโครงการเหมืองแร่ถ่านหินตลอด 3 ปี ของชาวกะเบอะดิน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่)
กะเบอะดิน แมแฮแบ
บทกวีโดย ปรัชวิชญ์ บุญยะวันตัง
ภาพ: วชิรญาณ์ วิรัชบุญญากร
Lanner เปิดพื้นที่สำหรับงานสื่อสารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ งานวิชาการ ความเรียง เรื่องสั้น บทกวี สารคดี photo essay ที่บอกเล่าเรื่องราวทางสังคมต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถส่งมาได้ที่ lanner.editor@gmail.com ​ ร่วมสร้างพื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าไปด้วยกัน​

#lanner​
#กวีเน้อ

ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าลงพื้นที่บรรยาย “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น”​

31/05/2022

28 พฤษภาคม 2565 รศ.ดร. ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่บรรยายในโครงการ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น” ณ ห้องประชุมเอื้องหลวง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง​

ปิยบุตร แสงกนกกุล เริ่มต้นการบรรยายว่า “หากจะเกิดการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ต้องดำเนินการรื้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเป็นตัวเสริมให้ท้องถิ่นบริหารจัดการตนเอง ที่ผ่านมาท้องถิ่นขาดศักยภาพ จึงต้องร้องขอทรัพยากรจากส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง ร่างรัฐธรรมนูญของคณะก้าวหน้า หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นยาแรงในการแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น”​

“ท้องถิ่นกลายเป็นท่อผ่านงบประมาณให้ส่วนกลาง งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนใหญ่หมดไปกับการจ่ายเงินเดือนและงานฝากที่รัฐบาลสั่งการมา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องหางบประมาณ เป็นนักเขียนโครงการของบประมาณ แทนที่จะเป็นนักพัฒนา ปัญหาของท้องถิ่นนอกจากไม่มีอำนาจ คือ ไม่มีเงิน” สอดคล้องกับมาตรา มาตรา 253 ในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ที่คณะก้าวหน้า นำเสนอว่า “เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอิสระในการเงินการคลัง และมีงบประมาณที่เพียงพอในการจัดทําบริการสาธารณะตามหน้าที่และอํานาจ ให้มีกฎหมายกําหนดรายรับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งอย่างน้อยต้องมีสาระสําคัญดังต่อไปนี้ (1) การกําหนดอํานาจในการจัดเก็บภาษีและรายได้อื่น (2) การให้อํานาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกู้เงินและการออกพันธบัตร (3) การกําหนดให้รัฐบาลมีหน้าที่ในการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น โดยพิจารณาจากจํานวนประชากร รายได้ ความสามารถในการจัดทําบริการสาธารณะของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่ง และความเท่าเทียมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนการดําเนินการตามวัตถุประสงค์เฉพาะกิจของเงินอุดหนุนหรือตามข้อตกลงที่ได้ทํากับรัฐบาล”​

ปิยบุตรย้ำถึงความสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ฯ ว่า “หากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองทั้งหมด รัฐบาลกลางดำเนินการเฉพาะเรื่องที่เป็นผลโดยตรงกับทั้งรัฐ” ซึ่งตามมาตรา 251 ในร่างรัฐธรรมนูญ ฯ ของคณะก้าวหน้า มีการบัญญัติไว้ว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอํานาจโดยทั่วไปในการจัดทําบริการสาธารณะในระดับท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น โดยไม่รวมเรื่องดังต่อไปนี้ (1) ภารกิจทางทหารและการป้องกันประเทศ (2) ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (3) การดําเนินงานเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ (4) การดําเนินงานของธนาคารกลางและระบบเงินตรา (5) บริการสาธารณะอื่นที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวมทั้งประเทศ ทั้งนี้ตามที่คณะกรรมการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกําหนด”​

ปิยบุตรกล่าวทิ้งท้ายว่า “ที่ผ่านมา เราเกิดการกระจายอำนาจที่เน้นการเลือกตั้ง ส่งผลให้เป็นเพียงการเปิดสนามท้องถิ่นให้นักการเมือง ทั้งยังไม่มีความยึดโยงกับการมีส่วนร่วมของภาคพลเมือง เป็นมิติการกระจายอำนาจราชการให้ท้องถิ่น ไม่ใช่การไหลอำนาจไปสู่พลเมืองโดยตรง อันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การกระจายอำนาจมีชีวิตชีวา”​

ทั้งนี้ มาตรา 4 ในร่างรัฐธรรมนูญ ฯ ของคณะก้าวหน้า มีการบัญญัติไว้ว่า “ภายในสองปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะรัฐมนตรีจัดทํา แผนการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ภายในห้าปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการออกเสียงประชามติในเรื่องการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค”​

หากสนใจสามารถศึกษาและลงชื่อสนับสนุนได้ที่ https://progressivemovement.in.th/campaign-decentralization/ ปัจจุบันมีผู้ลงชื่อสนับสนุนแล้วกว่า 25,013 รายชื่อ ภายหลังจากการที่มีการนำเสนอแคมเปญดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565​

#Lanner

กรณีศึกษา: “อมก๋อย แดนมหัศจรรย์”​ สื่อในมือพลเมือง​

31/05/2022


ในยุคสมัยที่การขับเคี่ยวช่วงชิงพื้นที่การสื่อสารในแพลตฟอร์มออนไลน์ไร้พรมแดนทวีความเข้มข้น และ “สื่อที่ดี” เป็น “ใครก็ได้” ที่มีความรับผิดชอบเพียงพอ ทั้งต่อสิ่งที่ตนนำเสนอ ต่อผู้รับสาร และต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไม่มากก็น้อยที่เกิดขึ้นจากการผลิตคอนเท้นต์นั้น ๆ ​

ก่อนจะพ้นเดือนแรกของการก่อตั้งสำนักข่าว Lanner อยากชวนทุกคนถอดรหัสการสื่อสารจากการเคลื่อนไหวในงานรณรงค์ยุติเหมืองถ่านหินอมก๋อย และการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อเพิกถอนเหมืองถ่านหิน ของชาวชุมชนและเยาวชนบ้านกะเบอะดิน ชุมชนใกล้เคียง และเครือข่ายคณะทำงาน ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 4 เมษายน 2565​

สถานการณ์ปัจจุบัน (31 พฤษภาคม 2565) ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำสั่งรับฟ้องคดี กรณีชาวบ้านกะเบอะดิน ฟ้องเพิกถอน EIA เหมืองถ่านหิน ในขณะที่ผู้นำชุมชนได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากบริษัท ยื่นข้อเสนอให้ชาวชุมชนกะเบอะดินเป็นผู้ถือหุ้นเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าเป็นจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ ​

ชุมชนกะเบอะดินยังมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่องใน Facebook Page ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เพจกะเบอะดิน ดินแดนมหัศจรรย์ https://www.facebook.com/KaberdinWonderland​



เรื่องและภาพ: ชเลฝัน ดิษฐ์ผู้ดี ​

#กะเบอะดินดินแดนมหัศจรรย์​
#ไม่เอาเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย​
#SaveOmkoi​
#NoCoalMine​
#แมแฮแบ​
#Lanner

บรรยากาศช่วงเช้าของขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน​

30/05/2022

30 พฤษภาคม 2565 ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ได้เตรียมการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อแสดงพลังหยุดยั้งการออกกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มประชาชนโดยได้ทำการนัดหมายเคลื่อนขบวนกันในเวลา 09.00 น.​

โดยในเวลา 08.00 น. สมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังที่ชุมนุมหน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติเพื่อรับข้อเรียกร้องจากตัวแทนขบวนการต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่ม ก่อนเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรับบาล โดยสมบูรณ์ คำเเหง ตัวแทนขบวนฯ กล่าวย้ำหลังจากยื่นหนังสือเสร็จว่า​
“ขอให้ผู้แทนที่มารับมอบหนังสือนำข้อเรียกร้องของเราไปบรรจุในวาระการประชุมของคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าจะวาระจรหรือวาระประจำ เพราะเรายืนยันว่าหลักการของร่างกฎหมายฉบับนี้ผิดเพี้ยน ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายมิชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งร่างกฎหมายนี้นั้นขัดต่อหลักการสากลระหว่างประเทศหลายฉบับ ​

รวมทั้งกระบวนการรับฟังความคิดเห็นโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีหลายวาระซ่อนเร้นไปด้วยความไม่ตรงไปตรงมา ทั้งความคิดเห็น online และ on site หากไม่มีการบรรจุวาระของเราเข้าประชุมครม. เราจะปักหลักชุมนุมกันต่อ”​

โดยผู้เเทนรัฐบาลกล่าวหลังจากรับมอบอย่างรวดเร็วและรีบออกจากพื้นที่ไปว่า “ผมจะนำเรื่องนี้ไปเสนอครม. และขอให้ทุกท่านรอคำตอบอยู่ที่นี่อย่าเพิ่งเคลื่อนขบวนกันเลย” ​

ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่าบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะแยกพณิชยการ คอสะพานชมัยมรุเชฐได้มีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์กีดขวางการจราจร ทำให้การสัญจรไปมาของประชาชนติดขัด ​ ซึ่งเป็นการขัดขวางเสรีภาพในการเดินทางโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งมีการระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายจอดรถเรียงรายเตรียมพร้อมรับมือขบวนผู้ชุมนุม​

08.45 น. ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน เริ่มตั้งขบวนแล้วบนถนนราชดำเนินนอก เตรียมเคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล​

09.18 น. เคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เส้นทางถนนกรุงเกษม ในขณะที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งกีดขวางเส้นทางการเดินขบวนไว้ ก่อนที่ในเวลา 10.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเต็มยศ พ.ต.อ. สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง ตะโกนข้ามมาเจรจากับแกนนำขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มประชาชน ​ โดยในเวลา 10.30 น. ทีมการ์ดของขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันนำรั้วลวดหนามที่กีดขวางออกแล้ว แต่ตู้คอนเทนเนอร์ยังตั้งตระหง่าน พร้อมแนวตำรวจหลายนาย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมช่วยกันกางผ้าใบบังแดดให้กันและกัน ภาพรวมบรรยากาศยังคงปกติ แต่ยังต้องติดตามจับตาอย่างใกล้ชิด​



ภาพ: Chaiyawat S. Chanachai​

#Lanner​
#NoNpoBill

บรรยากาศช่วงบ่ายของขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน​

30/05/2022

12.05 น. ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มประชาชน ได้ขยับรั้วเพื่อตั้งเวทีปราศรัย โดย เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ตัวแทนขบวนได้ขึ้นปราศรัยบนรถชั่วคราวระบุว่า
“เป็นเวลานานมากแล้ว แต่ตัวแทนรัฐบาลยังไม่ลงมาเจรจากับเรา เพราะรัฐบาลไม่แยแส ไม่ใส่ใจประชาชนที่มาปักหลักกันเป็นเวลา 8 วันแล้ว เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้รับคำตอบจากรัฐบาล​

13.45 น. ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ​ ได้ชี้แจงว่าได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่เนื่องจากมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ช่วงนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็น ยังไม่มีการเดินหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการพยายามโน้มน้าวให้ประชาชน ให้รอการเจรจากับรัฐมนตรี โดยขอให้ขบวนฯ ส่งตัวแทนไปเจรจาในวันที่ 31 พฤษภาคม เวลา 15.30 น. แต่ขอให้มากันตามจำนวนที่เหมาะสม โดยให้ทางตัวแทนที่จะมาเจรจาตรวจ ATK เพราะกังวลว่าทางรัฐมนตรีจะต้องกักตัว จะได้มีเวลาทำงานเพื่อพี่น้องที่เดือดร้อนเรื่องอื่นต่อ”​

โดยสมบูรณ์ คำแหง ทีมเจรจาของขบวนฯ ได้พูดคุยกับผู้ชุมนุมว่าพึงพอใจหรือไม่กับข้อเสนอหรือไม่ ซึ่งคำตอบก็คืออยากให้มาวันนี้ โดยต้องการให้รัฐมนตรีลงมาพูดคุยวันนี้ ในเวลา 15.00 น. และขอให้ปลัดฯ ไปนำเรียนและประสานงานต่อไปในฐานะคนกลาง โดยระหว่างนี้ได้มีการปราศัยจากเครือข่ายต่างๆ ที่มาร่วมการชุมนุม​

15.40 น. มีตัวแทนพรรคการเมืองสามพรรคร่วมแสดงจุดยืนและความเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ โดยมีพรรคการเมือง 3 พรรคร่วมแสดงจุดยืน ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งแถลงตรงกันว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจที่เป็นมรดกคสช. ซึ่งการรวมกลุ่มเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต่อด้วยกิจกรรมเผาพริกเผาเกลือสาปนายกและคณะรัฐมนตรี ที่จ้องฮุบเสรีภาพการรวมกลุ่มประชาชน ในเวลา 16.16 น.​

17.00 น. ขบวนฯ ได้แถลงคำประกาศ โดยมีเนื้อหาดังนี้​

พวกเราขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนซึ่งเกิดจากการรวมกลุ่มของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน คนจน ชาวนา เกษตกร ประชาชน นักกิจกรรม คนรุ่นใหม่ และองค์กรภาคประชาสังคมทั้งหญิงและชายและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศมากกว่า 67 องค์กรเครือข่าย ที่มีความเห็นและเจตนาร่วมกันชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับร่างกฎหมายทำลายสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับได้มาร่วมกันใช้สิทธิชุมนุมกันอีกครั้งเพื่อยืนยันคัดค้านและเรียกร้องให้ยุติการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ โดย 8 ​ วัน ​ ที่เราได้มาอยู่มากิน มานอน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อสู้ไปด้วยกันเพื่อหยุดกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มท่ามกลางความยากลำบากและตึงเครียดจากการคุกคามและกระบวนการเจรจาที่ไม่เห็นหัวประชาชน ​
อย่างไรก็ตามเราถือว่าเรามาด้วยกันไกลตั้งแต่วันที่เราไปที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การทำงานร่วมกันที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาการเรียนรู้ เป็นช่วงเวลาที่งดงามและเราเชื่อว่า​

1.การรวมตัวกันในครั้งนี้ในนามขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนเป็นชัยชนะที่มีการรวมตัวกันของภาคประชาชนที่หลากหลายทั่วประเทศ การทำงานร่วมกันถือเป็นการฟื้นฟูและเสริมสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการภาคประชาชน​
2. รัฐบาลไม่ได้นำร่างกม.เข้าครม. ซึ่งก็ยังถือว่ากฎหมายนี้ยังไม่มีการผลักดันต่อ ​
3. ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนพร้อมรวมตัวกันกลับมาถ้ารัฐบาลจะผลักดันกฎหมายควบคุมการร่วมกลุ่มอีก​
4 สังคมและสื่อมวลชนได้รับรู้แล้วว่าร่างกม.นี้ไม่ใช่แค่ควบคุมเอ็นจีโอแต่รวมถึงการรวมกลุ่มของทุกกลุ่ม และประชาชนทุกคน​
5.ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนมีความมุ่งมั่นปราถนาที่จะกลับไปทำงานเผยแพร่ปัญหาของร่างกม.ในพื้นที่ ชุมชนและท้องถิ่นของตนเอง เพื่อที่จะให้ประชาชนได้ทราบถึงความร้ายแรงของกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มที่แทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการรวมกลุ่มของประชาชน ยิ่งรัฐห้ามประชาชนรวมกลุ่ม ​ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความกลัวของรัฐถึงพลังของการรวมกลุ่ม​
ต่อจากที่เราประกาศไปเมื่อเช้า เรากำลังปีนบันไดไปทีละขั้น ​ เพื่อสู่หนทางแห่งชัยชนะในท้ายที่สุด​

วันนี้คือบันไดขั้นที่สองหลังจากการชุมนุมที่พม. และเราจะก้าวต่อไปอย่างไม่ย่อท้อสิ้นหวังใด ๆ เพื่อเดินทางไปถึงจุดนั้น เราจะยังคงร่วมเขียนประวัติศาสตร์เพื่อบอกเล่าไล่เรียงเรื่องราวบนท้องถนนที่กำลังนำเราไปสู่เส้นทางแห่งชัยชนะด้วยการล้มร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. ….’ ให้จงได้ การรวมกันคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้จะนำไปสู่การล้มล้างมรดกคสช.ในกรณีอื่น ๆได้อีกมากมาย​

หยุดมรดก คสช. ​ หยุด พ.ร.บ. การรวมกลุ่ม​
เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ​
ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน​
หน้าตู้คอนเทนเนอร์ ทำเนียบรัฐบาล​
30 พฤษภาคม 2565​

ทั้งนี้หลังจากแถลงการณ์ได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และการแสดง Performance Art จากกลุ่ม ​ NU-Movement ​ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านราษฎร์ธรรมนูญ บริเวณหน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติ



ภาพ: Chaiyawat S. Chanachai และเพจ No NPO Bill​

#Lanner​
#NoNpoBill

ชวนชมนิทรรศการภาพถ่าย “Focus In Life” เรื่องราวจากแดนประหาร ที่ Addict Art Studio ถนนศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่​

29/05/2022

Amnesty International Thailand จัดนิทรรศการภาพถ่าย “Focus In Life” โดยนิทรรศการภาพถ่ายชุดนี้เป็นผลงานภาพถ่ายของ “โทชิ คาซามะ” ช่างภาพชาวญี่ปุ่นผู้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อใช้ภาพถ่ายในการรณรงค์ยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยในวันที่ 25 พฤษภาคม โทชิ คาซามะ ได้เดินทางมาร่วมเสวนาในหัวข้อ “What to Focus in the World Now” เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในประเด็นโทษประหารชีวิตซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน คือ สิทธิในการมีชีวิต อีกทั้งโทษประหารยังเป็นการทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย​

โดย Amnesty International ได้แถลง “รายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิตในปี 2564” โดยพบว่า ปี 2564 เป็นปีที่มีการประหารชีวิตเพิ่มขึ้นและมีจำนวนการตัดสินให้ประหารชีวิตที่น่ากังวล หลังจากประเทศที่มีการประหารชีวิตมากสุดในระดับโลก ได้หวนกลับมาใช้วิธีการเช่นนี้อีก และในขณะที่ศาลเริ่มเปิดทำการ หลังปลอดจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19​

นิทรรศการภาพถ่าย Focus In Life ยังเปิดให้ชมได้ในระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 22 กรกฎาคม 2565 วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 11:00 น – 19:00 น. ที่ Addict Art Studio ถนนศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ **เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย​

อ่านได้แถลง “รายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิตในปี 2564” ได้ที่ https://www.amnesty.or.th/latest/news/1004/?fbclid=IwAR0J3ApaOWJaD7x7ZwiLEfCbtOUK7AA0b6nluZLVl9TZIeateE8nBd_ym5k​

และรับชมเสวนาหัวข้อ “What to Focus in the World Now” โดย “โทชิ คาซามะ” ได้ที่ https://www.facebook.com/lanner2022/videos/306400538357051​



ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย​

#Lanner

กลุ่มขนสุขสาธารณะชวนเข้าชื่อในแคมเปญ ‘เชียงใหม่ต้องมีขนส่งมวลชน’​

29/05/2022

“เราต้องการให้ชาวเชียงใหม่ สามารถเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่ด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ” กลุ่ม ขนสุขสาธารณะ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเชียงใหม่ที่รวมตัวกันเพื่อผลักดันหรือสร้างจินตนาการถึงการมีระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ เพราะเราเชื่อมั่นในพลังเสียงของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ที่ต้องการให้เกิดระบบขนส่งสาธารณะที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม โดยทางกลุ่มขนสุขสาธารณะ ได้จัดทำแคมเปญรณรงค์เชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมกันสนับสนุนเพื่อยื่นข้อเรียกร้องกับรัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้เกิดขนส่งมวลชนในเชียงใหม่ ผ่านเว็บไซต์ change.org​

จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่เชียงใหม่ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่เพียงพอ และไม่ครอบคลุมพื้นที่ ทำให้เราต้องเดินทางในเชียงใหม่อย่างยากลำบาก เสียค่าเดินทางโดยไม่ใช่เหตุ ประกอบกับความจำเป็นที่จะต้องมียานพาหนะส่วนตัว เพื่อใช้ในการเดินทางในเชียงใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้เชียงใหม่มีอัตราการเพิ่มของยานพาหนะสูงขึ้น และเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิด PM2.5 ตามมา ปัญหาการจราจรหนาแน่น ปัญหาหนี้สินที่เกิดจากความจำเป็นในการต้องใช้รถ ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ ซึ่งก็คือคนเชียงใหม่กำลังเผชิญกับปัญหาปากท้องจนไปถึงปัญหาระดับเมือง ที่ไร้ซึ่งขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ​

พวกเรากลุ่มขนสุขสาธารณะ อยากเห็นคนเชียงใหม่ใช้ขนส่งสาธารณะอย่างมีความสุข จึงขอความร่วมมือจากทุกคน เพื่อยื่นข้อเรียกร้องกับรัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการจัดสรรขนส่งมวลชนในเมืองเชียงใหม่​

1.ให้เชียงใหม่มีขนส่งมวลชนที่มีความหลากหลาย นอกจากขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์ ที่เคยนำมาใช้ เชียงใหม่ควรจะมีขนส่งมวลชนในรูปแบบอื่น และมีความหลากหลายมากพอเพื่อจะตอบสนองการเดินทางของคนเชียงใหม่ ​ ที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้าน ราคา เวลา และชนิดของขนส่งมวลชนที่เหมาะสมกับเมือง​
2. พัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีอยู่แล้วให้มีมาตรฐานได้แก่ การปรับปรุงและพัฒนาเส้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่สอดรับกับการเดินทางของคนเชียงใหม่ โดยคำนึงถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ ขนส่งมวลชน เช่น ทางเท้า ถนน ที่จอดรถ ป้ายรถเมล์ หรือสถานีรอรถขนส่งมวลชนและความถี่ด้านการเดินรถและจำนวนเที่ยวรถที่ออกวิ่ง ควรมีความสัมพันธ์กับเวลาที่มีจำกัดของประชาชน​
3. ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยและสนับสนุนให้ขนส่งมวลชนเกิดขึ้นได้จริง​

โดยสามารถร่วมเข้าชื่อกันได้ที่ https://chng.it/B2YqCb2t ​

ภาพ: เพจขนสุขสาธารณะ​

#Lanner

ยืนหยุดทรราชll สัปดาห์ที่ 5​

28/05/2022

วันนี้ 28 พฤษภาคม 2565 เวลา 17.00 – 18.12 น. กลุ่มพลเมืองเสมอกัน We, The People จัดกิจกรรม #ยืนหยุดทรราชll บริเวณ ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยการยืนหยุดทรราชในครั้งนี้เป็นการยืนในสัปดาห์ที่ 5​

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ โดยกำหนดเวลา 1 เดือน พร้อมเงื่อนไขติดกำไล EM ห้ามออกนอกเคหสถานยกเว้นกรณีเจ็บป่วย ระบุว่าห้ามกระทำการที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และห้ามออกนอกราชอาณาจักร โดยได้แต่งตั้งให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้กำกับดูแล​

โดยตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ขอขอบคุณกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องเพื่อนๆข้างนอกมากๆจริงๆ กำลังใจจากทุกคนคือสิ่งที่เยียวยาจิตใจพวกเราได้ดีมากๆตอนอยู่ในคุก ทุกๆครั้งที่ทนายมาพบและมาบอกกล่าวเล่าถึงกำลังใจและการต่อสู้ของคนข้างนอกให้ฟัง ทำให้พวกเรารู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากๆ เช่นเดียวกัน ขอขอบคุณทนายทุกๆคนที่ทำงานหนักมากๆเพื่อพวกเรา ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ และขอขอบคุณคุณทิม พิธา มากๆค่ะที่มาเป็นนายประกันให้ ขอบคุณพรรคก้าวไกล ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆ มากๆจริงๆ ไม่รู้จะตอบแทนกำลังใจ การต่อสู้และการช่วยเหลือจากทุกคนยังไงได้บ้าง ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ ขอขอบคุณจากใจจริงๆ และอีกอย่างที่สำคัญคือ ตอนนี้ยังมีเพื่อนของเราอยู่ในเรือนจำอีก 10 คน อยากบอกผู้มีอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมคุมขังประชาชนที่ออกมาพูดความจริงทั้งหลายว่า คุกไม่ใช่ที่ของพวกเราค่ะ และวันนึงที่พวกเราชนะ วันนึงที่อำนาจเป็นของประชาชน คุกคือที่ของพวกคุณ”​

ก่อนที่ในวันที่ 27 พฤษภาคม ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัวปฏิมา หลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำเป็นเวลากว่า 47 วัน โดยปฏิมาต้องมารายงานตัวทุกเดือนตามคำสั่งศาล โดยตอนนี้นั้นมีผู้ต้องขังทางการเมืองในตอนนี้ ทั้งหมด 9 คน ได้แก่ เวหา แสนชนชนะศึก,คทาธรและคงเพชร,พรพจน์ แจ้งกระจ่าง,เอกชัย หงส์กังวาน,สมบัติ ทองย้อย,โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง,ใบปอ และ เนติพร​

กิจกรรม #ยืนหยุดทรราชll จะจัดต่อเนื่องในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 17.00-18.12 น. ที่ท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ จนกว่าประชาชนที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัว​



ภาพ: Chaiyawat S. Chanachai​

#หยุดละเมิดสิทธิประกันตัว​
#ยกเลิก112​
#Lanner

| ไม่ใช่ Change หาก Become |​

28/05/2022

ไม่มีสิ่งใด​
เปลี่ยนแปลง..​
ทุกปรากฏการณ์เราเรียกว่า​
‘การมาถึง’..​

การเปลี่ยนแปลง​
คือสิ่งสมมติ​
หากเรามอง​
เราจะเห็นเพียงการไหลไปของสายน้ำแห่งอัตวิสัย​
ทั้งสุข​
ทุกข์​
ทรมาน​
และเรียนรู้..​
‘การกลายเป็น’ วันหนึ่งจึงหลอมรวม​
และบรรจบ​

ไม่มีการเปลี่ยนของหน้าเหรียญ​
เป็นอีกด้าน​
เหรียญด้านหนึ่งถูกห่าฝนซัดนานราวทศวรรษ​
ความสกปรกเหงื่อไคลจึงถูกชะล้าง​
สุดท้ายจึง ‘กลายเป็น’ ​
ความสะอาด​

การปฏิวัติเป็นเพียงความฝัน​
หากการอภิวัฒน์มิใช่เรื่องบังเอิญ​
มนุษย์เราต่างแสวงหาสิ่งที่ดีกว่า​
การ ‘กลาย’ ของคนเราไม่เท่ากัน​
ทว่าจิตของคนมุ่งสู่สิ่งเดียวกัน​

แลเมื่อถึงจุดสมดุล​
และเหมาะสม​
หลายความคิด​
จะ ‘กลายเป็น’ หนึ่งเดียว​
และเวลา..​
จะ ‘กลายมา’​

อยู่ข้างเรา.​

| ไม่ใช่ Change หาก Become |​
บทกวีโดย รัฐพล เพชรบดี​

ภาพ: ไลลา ตาเฮ​

Lanner เปิดพื้นที่สำหรับงานสื่อสารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ งานวิชาการ ความเรียง เรื่องสั้น บทกวี สารคดี photo essay ที่บอกเล่าเรื่องราวทางสังคมต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถส่งมาได้ที่ lanner.editor@gmail.com ร่วมสร้างพื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าไปด้วยกัน ​

#lanner ​
#กวีเน้อ