23/05/2022
22 พฤษภาคม ภาคีเครือข่ายรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมปักหมุดกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ณ ลานท่าแพ
โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีกิจกรรมหย่อนบัตรเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มหานคร(จำลอง) พร้อมการประกาศนโยบาย โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 หมายเลขได้แก่ 1.นายคำ ณ ป่าแห่วง มีนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่า 20% ใน 4 ปี ,จัดตั้งสภาพลเมือง,เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์,โรงเรียนคุณภาพประจำจังหวัดเชียงใหม่ 2.นางคำเกี๋ยง ฮักเจียงใหม่ มีนโยบายหลักสูตรระกษ์เชียงใหม่ทุกโรงเรียน,หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลผลิต,หนึ่งตำบล หนึ่งอ่างเก็บน้ำ,ขนส่งสาธารณะจากในเมืองสู่ 25 อำเภอ 3.นายจั๋นเป็ง กระจายอำนาจ มีนโยบายศูนย์เด็กเล็กคุณภาพทุกแห่ง,ตลาดกลางเพื่อเกษตรกร,ทะเบียน คทช. เต็มพื้นที่ใน 4 ปี 4.นายมา แจ๊ะแฮะ มีนโยบาย ผู้ว่า ฯ มีอำนาจเด็ดขาด,ตีกรอบความคิดท้องถิ่นฟังเสียงส่วนกลาง,อยู่ 2 ปีต้องได้ย้ายและเกษียณ,ประชาสัมพันธ์งานต่อเนื่อง 5.นางธรรมนูญ ปลดล็อก มีนโยบายเพิ่มเบี้ยสูงอายุ 200 บาท,พัฒนาประชาธิปไตยท้องถิ่นให้เข้มแข็ง,ขยะครบวงจร เพิ่มมูลค่า,คนเชียงใหม่จบแล้วมีงานทำ โดยทำคู่ขนานไปกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ
จากนั้นเวลา 17.00 น. เปิดกิจกรรมด้วยกลองสะบัดชัย โดยกลุ่มเด็กเยาวชนเชียงใหม่ พร้อมทั้งกล่าวต้อนรับโดย ศาสตราจารย์ ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง ประธานภาคีเครือข่ายรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ โดยแกนนำองค์กร และผู้นำสาขาอาชีพต่างๆ กล่าวยืนยันให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เครือข่ายสุขภาพให้ความเห็นว่าในสถานการณ์โควิดคนหลายอาชีพไม่ได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากการบริหารงานที่ไม่เข้าใจปัญหา ด้านศาสนิกสัมพันธ์ กลุ่มศาสนาต่างๆ เห็นตรงกันว่าจะต้องมีการกระจายอำนาจ ไม่ผูกขาดอยู่ที่ส่วนกลาง สภาลมหายใจมองเห็นว่าปัญหาฝุ่นควันและไฟป่าเป็นปัญหาที่เจอทุกปี ถ้ามีผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งที่เข้าใจปัญหาอาจจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน กลุ่มรักษ์เมืองเชียงใหม่เสนอว่าต้องการอนุรักษ์และพัฒนาเมือง เชียงใหม่ต้องมีอำนาจบริหารงานของตัวเอง ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม คนจนเมือง ได้อย่างยั่งยืน ด้านเลขาคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ เสริมว่าไม่ต้องการผู้ว่าที่มาจากการแต่งตั้งที่ดำรงตำแหน่งไม่กี่ปี ทำให้ไม่เข้าใจปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เกิดการรวมศูนย์ การพัฒนาระหว่างกรุงเทพและเชียงใหม่จึงห่างไกล ด้านนักธุรกิจนักลงทุนเห็นว่าต้องเลือกตั้งผู้ว่า ภาคีครูประกาศว่าพัฒนาการศึกษาต้องกำหนดการศึกษาจากท้องถิ่นได้ เพื่อกำหนดการศึกษาเองที่ไม่ยึดหลักสูตรของส่วนกลาง ตัวแทนกลุ่มเยาวชนอธิบายภาวะสมองไหล เยาวชนต้องออกจากภูมิลำเนาของวตัวเอง ทั้งนี้ในประเด็นขนส่งมวลชนก็ถูกตั้งคำถามจากเยาวชนว่าทำไมขนส่งมวลชนเชียงใหม่ถึงไม่สามารถบริหารจัดการได้เหมือนที่กรุงเทพ ฯ ด้านชำนาญ จันทร์เรืองอธิบายว่าการรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ ในครั้งนี้ต้องนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการปกครองท้องถิ่น
เวลา 18.30 น. ทางภาคีได้กล่าวแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์เลือกตั้งผู้ว่าฯเชียงใหม่ โดยมีเนื้อหาว่า วันนี้ 22 พฤษภาคม 2565 เป็นวันครบรอบ 8 ปีของการยึดอำนาจ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนต้องสิ้นสุดลง และนับตั้งแต่นั้น ก็มีการเปลี่ยนแปลงกติกาหลายๆอย่าง เพื่อให้กลุ่มที่ยึดอำนาจได้รับประโยชน์ จึงเกิดการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2562 และประชาชนต้องรอคอยจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2564 จึงได้มีการเลือกตั้ง อบต. เทศบาล อบจ. ขึ้นทั่วประเทศ และในวันนี้ กำลังมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา เราต้องยอมรับก่อนว่าการทำรัฐประหาร การยึดอำนาจการปกครองประเทศไปเป็นของคนเพียงกลุ่มหนึ่งไม่เคยเกิดผลดีใดๆ นอกจากฉุดรั้งการพัฒนาประเทศไว้ ญี่ปุ่นไม่เคยมีรัฐประหาร และมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯทั่วประเทศมาแล้วทุกๆ 4 ปีเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2490 เป็นต้นมา เกาหลีใต้ก็เช่นกัน หลังจากประชาชนโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการชุน-ดูฮวานลงได้ในปี พ.ศ. 2532 และสถาปนารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯขึ้น ทั่วประเทศ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เจริญก้าวรุดหน้าขึ้นเป็นลำดับบ้านเมืองงดงาม ผังเมืองเป็นระเบียบ ระบบขนส่งสาธารณะยอดเยี่ยมทุกๆจังหวัด และที่สำคัญคนไทยต่างพากันไปขายแรงงานและท่องเที่ยวชมญี่ปุ่น เกาหลีใต้อย่างเนืองแน่น และต่อเนื่องก็เพราะสาเหตุดังกล่าว เราล้วนเป็นคนไทยเสียภาษีอากรเช่นเดียวกับพี่น้องคนกรุงเทพฯ แต่ทำไมคนกรุงเทพฯ มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ แต่จังหวัดอื่นๆ 76 จังหวัดไม่มี มีคณะที่ปรึกษาและฝ่ายวิชาการทุกกระทรวงทำงานด้านนี้ สรุปความเห็นเรื่องเหล่านี้อย่างไรในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนเรียกร้องมาหลายครั้ง ผู้นำประเทศแต่ละชุดก็ได้ไปดูงานเมืองนอกหลายครั้ง ในวาระที่วันนี้ พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครได้ใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯเชียงใหม่ ขอประกาศเจตนารมณ์
1. ภาคีเครือข่ายรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯเชียงใหม่จะยืนหยัดรณรงค์ เพื่อให้คนเชียงใหม่ได้สิทธิในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ต่อไป จะประสานร่วมมือกับประชาชนในจังหวัดอื่น รณรงค์เรื่องนี้อย่างเต็มที่
2. สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ จะเริ่มออกพบปะประชาชนในทุกๆ อำเภอ เพื่อผลักดันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. รูปแบบการรณรงค์จะมีความหลากหลาย และรูปแบบการร่วมมือกับองค์กรรณรงค์ในจังหวัดอื่น จะมีความหลากหลายและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่และทั่วประเทศ บ้านเมืองของเรา ประเทศชาติของเรา ไม่อาจจมปลักอยู่ในความล้าหลังได้ต่อไปอีกแล้ว มีแต่การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การเลือกตั้งที่ต่อเนื่องของ อบต.,เทศบาล,และอบจ. ทุกๆ 4 ปี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงเวลาที่ “ผู้ว่าฯของทุกๆจังหวัด” จะต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยประชาชนในจังหวัดนั้นๆ ขอพวกเรามาสามัคคีกันให้เป็นหนึ่งและร่วมมือกันผลักดัน เพื่อท้องถิ่นของเรา จังหวัดของเราและประเทศอันเป็นที่รักของเรา จะได้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศโดยเร็วต่อไป
จากการนับผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มหานคร (จำลอง) ผลเป็นดังนี้ เบอร์ 1 20 คะแนน เบอร์ 2 15 คะแนน เบอร์ 3 25 คะแนน เบอร์ 4 25 คะแนน เบอร์ 5 31 คะแนน ผลคือเบอร์ 5 ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯเชียงใหม่(จำลอง) คือ นางธรรมนูญ ปลดล็อก ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเชียงใหม่ มีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาประชาธิปไตยท้องถิ่นให้เข้มแข็ง มีการจัดการขยะครบวงจร และคนเชียงใหม่จบแล้วมีงานทำ
ทั้งนี้กลุ่ม We’re all voters: เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง ได้สร้างแคมเปญรณรงค์นี้ถึงพรรคการเมือง เพื่อผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เป็นนโยบายพรรคก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า มีเหตุผลมากมายที่เราควรเลือกตั้งผู้ว่าฯ ได้เอง เพื่อเกิดการแข่งขันเสนอนโยบายที่เหมาะสมตามแต่ละพื้นที่,เกิดการกระจายทรัพยากรที่ทั่วถึง,ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่น เพื่อป้องกันการทุจริตได้ตลอดเวลา,จังหวัดได้คนที่เข้าใจปัญหาท้องถิ่นของตนอย่างแท้จริงและคนธรรมดามีสิทธิลงรับเลือกตั้ง,ตัดปัญหาผู้ว่าฯ ถูกโยกย้ายแบบตรวจสอบไม่ได้ โดยสามารถลงชื่อได้ที่ Change.org/WeAllVoters
ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย
#เลือกตั้งผู้ว่าทั่วประเทศ
#ปลดล็อกท้องถิ่น
#Lanner
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...