26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารปฏิบัติการคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Justice Movement For Community-Innlay (JMC-Innlay) องค์กรทางสังคมซึ่งทำงานประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศเมียนมาบริเวณทะเลสาบอินเลทางตอนใต้ของรัฐฉานได้เผยแพร่รายงานวิจัยเรื่องผลกระทบทางสังคมในพื้นที่ทะเลสาบอินเล
ภายหลังการรัฐประหารของทหารเมียนมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 สถานการณ์ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนนั้นย่ำแย่ลงอย่างมาก ซึ่งในพื้นที่ทะเลสาบอินเลยังไม่มีการเก็บข้อมูลประเด็นนี้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำเสนอข้อมูลกับองค์กรระหว่างประเทศนัก รายงานวิจัยจึงถูกจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ 1.สนับสนุนข้อมูลที่เป็นหลักฐานชัดเจนเพื่อให้นานาชาติมีการปฏิบัติที่ชัดเจนกับการรัฐประหารและระบอบผู้ก่อการร้าย 2.ประเมินผลกระทบของการรัฐประหารต่อวิถีชีวิตในพื้นที่อินเล 3.เก็บข้อมูลเสียงของเหยื่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและเผยแพร่เรื่องราวชองพวกเขาอย่างละเอียดผ่านรายงานและช่องทางระดับนานาชาติ
รายงานวิจัยนี้เน้นการศึกษาเกี่ยวกับภาคการศึกษา ภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม ภาคสุขภาพ และภาคความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ทะเลสาบอินเลโดยเปรียบเทียบก่อนและหลังรัฐประหาร การเเก็บข้อมูลทำโดยการผสมระหว่างการสัมภาษณ์ต่อหน้าและการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับประชาชนในท้องถิ่น แม้ว่าจะมีความยากลำบากและอุปสรรคก็ตาม ทั้งนี้ข้อมูลถูกเก็บด้วยการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัวของผู้ให้ข้อมูลซึ่งในรายงานจะมีการอ้างอิงถึงกฎหมายระหว่างประเทศอีกด้วย
มีข้อค้นพบที่น่าสนใจหลายประการจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของทะเลสาบอินเล เนื่องด้วยการต่อสู้กันระหว่างทหารพม่าและประชาชนที่ยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ในด้านการศึกษาพบว่าร้อยละ 45 ของเด็กในวัยเรียนไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้เนื่องจากความรุนแรงของการรัฐประหาร การรีดไถเงิน และการเลือกปฏิบัติหากพ่อแม่เข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืน(Civil Disobedience Movement-CDM) นอกจากนี้แม้ว่ามีคนในวัยเรียนจากอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยถึงร้อยละ 55 ของทั้งหมดแต่คนในวัยเรียนจำนวนมากพบอุปสรรคจากการข่มขู่ แรงกดดันจากระบอบก่อการร้าย มีพ่อแม่และคนในวัยเรียนจำนวนมากที่ไม่พอใจกับระบบการศึกษา เนื่องจากการสอนที่คุณภาพต่ำ จำนวนครูที่ไม่เพียงพอ การละเมิดสิทธิมนุษยชนของครูผ่านวาจาและกายภาพ ตลอดจนการเลือกปฏิบัติ
ด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 96 ของผู้อยู่อาศัยบริเวณอินเลกล่าวว่ามีรายได้ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัวเนื่องจากขาดอิสรภาพที่จะทำงานอย่างเป็นอิสระ ภายหลังรัฐประหารกองทัพเข้าควบคุมธุรกิจของประชาชน ใช้การสอบปากคำและรีดไถเงินจากประชาชน
ด้านสังคม การจัดงานทางสังคม เช่น งานศพและงานเทศกาลเปลี่ยนไปอย่างมากหลังรัฐประหารเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ความปลอดภัย และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมีข้อจำกัดจากทหารเพื่อจำกัดอิสรภาพในการจัดงานสังคมซึ่งใช้เหตุผลเกี่ยวกับการควบคุมโควิด-19 เป็นข้ออ้าง ร้อยละ 53 ของผู้อาศัยท้องถิ่นแสดงความคิดเห็นว่าไม่สามารถจัดงานเทศการได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกันร้อยละ 47 ของผู้อาศัยท้องถิ่นกล่าวว่าสามารถทำได้เป็นประจำ ซึ่งเกิดจากการที่คนในชุมชนมีความคิดที่แตกแยกกันทางการเมืองการรวมตัวกันจัดงานสังคมจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากขึ้น
ด้านสุขภาพ ผู้อาศัยส่วนใหญ่ในทะเลสาบอินเลไม่ได้รับบริการสุขภาพพื้นฐานจากการรัฐประหาร ร้อยละ 64 รายงานว่าบริการสาธารณสุขเปลี่ยนไปหลังรัฐประหาร ความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้การดูแลจากชุมชนขั้นพื้นฐานหายไป ค่าบริการสูงขึ้น ขาดวัคซีนที่จำเป็น ขาดแพทย์และพยาบาล อีกทั้งมีการเลือกปฏิบัติอีกด้วย การขาดบริการสำหรับแม่และเด็กเป็นเรื่องที่เด่นชัดที่สุดของการขาดวัคซีน นอกจากนี้ยังมีเรื่องความไม่สะดวกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการเดินทางไปรับบริการสาธารณสุขต้องพบกับความล่าช้าและอุปสรรคจากด่านตรวจของทหารเมียนมาซึ่งจะสอบปากคำและรีดไถเงิน
ด้านความปลอดภัย ร้อยละ 92 ของผู้อยู่อาศัยกล่าวว่าพื้นที่ที่ตนอยู่อาศัยนั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ความไม่มั่นคงทางการเมืองนำไปสู่การตรวจบัตรประจำตัวและเช็คโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบฝ่ายทางการเมืองโดยทหาร ผู้อยู่อาศัยจึงหลีกเลี่ยงการเดินทาง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ในหมู่บ้านผู้อยู่อาศัยกลัวที่จะนอนในบ้านของตนในเวลากลางคืนโดยอาศัยกับญาติที่อยู่ในเมือง เนื่องจากความกลัวที่ทหารจะเข้าตรวจค้นและนำตัวไปสอบสวนอย่างทารุณว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการประชาธิปไตยหรือไม่
รายงานนี้มีข้อเรียกร้องต่อประชาคมนานาชาติคือ
1.ห้ามยอมรับรัฐบาลทหารพม่าในฐานะรัฐบาลที่ชอบธรรม
2.กดดันรัฐบาลทหารพม่าให้ต้องรับผิดชอบกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง
3.ลงโทษการละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านศาลอาญาระหว่างประเทศ
4.รับฟังและให้ความสำคัญความคิดเห็นของคนเมียนมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงผู้อยู่อาศัยในบริเวณอินเล ทำให้มั่นใจได้ว่าได้ยินเสียงของพวกเขาและพิจารณาในขั้นตอนการทำนโยบาย
ในงานเปิดตัวรายงานวิจัยยังมีการฉายวีดิทัศน์การสัมภาษณ์ผู้อยู่อาศัยในอินเลจากคำถามที่ใช้ในการวิจัย หากต้องการอ่านรายงานฉบับเต็มสามารถเข้าถึงได้
สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มภาษาอังกฤษได้ที่:https://docs.google.com/document/d/1cordtHGqexaJFq1yFL8YOOvsLnLlog7P/edit?usp=sharing&ouid=115092411087807659290&rtpof=true&sd=true
คลิปวีดิทัศน์การสัมภาษณ์ผู้อยู่อาศัยในอินเล: https://drive.google.com/file/d/1UYUhB634IsX6P2OSxJ9AbnNW9IjOzImB/view?usp=drivesdk
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...